พระนครศรีอยุธยา – เจ้าหน้าที่ ตำรวจทางหลวงสนธิกำลังบุกทลายโกดังอะโวคาโดเถื่อน มูลค่ากว่า 2.7 ล้านบาท บริเวณ ถนนคู่ขนานพหลโยธินขาออก หมู่ที่ 4 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวรายงายว่าเย็นวานนี้ (6 มิ.ย.) ตำรวจทางหลวงอยุธยา นำโดย พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สวญ.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอยุธยา, หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร และเจ้าหน้าที่ศุลกากร บูรณาการร่วมกันบุกเข้าทลายโกดังลักลอบเก็บอะโวคาโดนำเข้าผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 2.7 ล้านบาท
ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากการรับแจ้งเบาะแสการลักลอบนำเข้าผลไม้อะโวคาโดจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าตรวจสอบโกดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนคู่ขนานพหลโยธินขาออก หมู่ที่ 4 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบรถกระบะมีคอกปกคลุมผ้าใบจำนวน 5 คัน จอดเรียงรายอยู่ ภายในบรรทุกอะโวคาโดจำนวนมาก เมื่อตรวจสอบภายในโกดัง พบอะโวคาโดบรรจุในตะกร้ากว่า 1,080 ตะกร้า น้ำหนักรวมประมาณ 27,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.7 ล้านบาท
จากการตรวจสอบ พบ นาง Tran thi huong (ทาน ที เฮือง) อายุ 40 ปี สัญชาติเวียดนาม แสดงตัวเป็นผู้ดูแลโกดัง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย รับไว้ซึ่งของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร”, “นำเข้าซึ่งสิ่งต้องห้ามตาม พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 โดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”
จากการสอบสวนเบื้องต้น นาง Tran thi huong ให้การว่า มีบุคคลติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กว่าจ้างให้มาเช่าโกดังได้เพียง 3 วัน โดยให้ทำหน้าที่เฝ้าดูแลผลไม้ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นอะโวคาโดและไม่รู้แหล่งที่มา ทราบเพียงว่ามีการขนส่งมาจากจังหวัดสระแก้ว ได้ค่าจ้างวันละ 1,500 บาท หากทราบว่าเป็นของผิดกฎหมายก็จะไม่รับงานดังกล่าว
พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการบูรณาการความร่วมมือของหลายหน่วยงาน หลังได้รับแจ้งข้อมูลจึงได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยบรรทุกอะโวคาโด และขยายผลจนสามารถเข้าตรวจค้นโกดังดังกล่าวได้ในที่สุด พบว่าอะโวคาโดทั้งหมดลักลอบนำเข้าจากประเทศเวียดนาม
ด้านหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อะโวคาโดจากประเทศเวียดนามถือเป็นสิ่งต้องห้ามนำเข้า เนื่องจากยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช การลักลอบนำเข้าอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชร้ายแรงในประเทศไทยได้ โดยปัจจุบัน ประเทศไทยอนุญาตให้นำเข้าอะโวคาโดได้จากเพียง 4 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ เครือรัฐออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู และจีน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
