จันทบุรี –ผู้ว่าฯ จันทบุรี สั่ง 2อำเภอติดชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชม. ตรวจความพร้อมหลุมหลบภัยแม้สถานการณ์ด้านพระตะบอง ยังปกติ ด้าน นอภ.โป่งน้ำร้อน ลงพื้นที่ตรวจด่านถาวรบ้านแหลม ย้ำแม้พื้นที่อยู่ติดแนวชายแดนแต่ไม่มีจุดใดเป็นจุดเสี่ยง หรือพื้นที่พิพาทพร้อม ขอประชาชนมั่นใจ
วันนี้ ( 6 มิ.ย.) นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เผยถึงสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย –กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี ว่ายังคงเป็นไปตามปกติ แต่ได้ประสานไปยัง นายอำเภอโป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว ซึ่งมีพื้นที่ติดกับชายแดน จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา ให้เร่งสร้างการรับรู้แก่ประชาชนเพื่อให้ตั้งหลักรับสถานการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งขอให้รับข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม หลีกเลี่ยงการเชื่อข่าวปลอม (Fake News)
รวมถึงให้จัดประชุมฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เพื่อกำหนดแนวทางอพยพหากเกิดการสู้รบ และกำหนดจุดเสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่สีแดง รวมทั้งตรวจสอบความเพียงพอของหลุมหลบภัย เพื่อให้สามารถอพยพประชาชนได้ภายใน 24 ชั่วโมง
นายอำเภอโป่งน้ำร้อนลงพื้นที่ด่านถาวรบ้านแหลม ย้ำความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ยังแน่น
และในวันเดียวกัน นายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโป่งน้ำร้อน ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน เพื่อพบปะผู้นำชุมชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมชี้แจงนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด และติดตามความเรียบร้อยในพื้นที่
โดย นายประพิศ เผยถึงสถานการณ์โดยรวมในพื้นที่ชายแดนว่ายังคงเป็นปกติ ประชาชนทั้ง 2 ประเทศยังสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ ภายใต้การอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างราบรื่น
“ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในพื้นที่ ยังได้มีการสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ลงพื้นที่ให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกรณีฉุกเฉิน โดยมีการจัดทำบังเกอร์ หลุมหลบภัย และฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างเป็นระบบ”
นายประพิศ ยังบอกอีกว่า อ.โป่งน้ำร้อน แม้จะอยู่ติดแนวชายแดน แต่ไม่มีพื้นที่ใดที่จัดว่าเป็นจุดเสี่ยงหรือพื้นที่พิพาท จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในสถานการณ์ พร้อมยืนยันความตั้งใจของภาครัฐในการดูแลความปลอดภัยและสันติสุขของประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่.🇹🇭
