ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ภาครัฐและเอกชนโคราชมอบเงิน 1 ล้านและเครื่องอุปโภคบริโภคพร้อมส่งกำลังใจให้ทหารไทยปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยไทยตามแนวชายแดน ด้าน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ขณะ “บิ๊กกุ้ง” มทภ. 2 ยันอดทนจนถึงที่สุด หากจำเป็นลั่นพร้อมใช้กำลังรักษาแผ่นดินไทย ชี้จับตาผลประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้
วันนี้ (6 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาที่บริเวณหน้าสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ได้รับมอบเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท พร้อมด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง จากพระมหาต่อ เจ้าอาวาสวัดแจ้งใน อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมภาคเอกชน อาทิ บริษัท PCS นครราชสีมา จำกัด บริษัท โสมเกาหลีตังกุยจั๊บ จำกัด นายสุรวุฒิ เชิดชัย และ คณะผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร (พสบ. )กองทัพภาคที่ 2 เพื่อนำไปมอบให้กับทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของไทยตามแนวชายแดนด้าน จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า สถานการณ์ตอนนี้กองกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายนั้นเผชิญหน้ากันอยู่ในพื้นที่ของตนเอง แต่ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ทางฝั่งกัมพูชานั้นได้มีการระดมพลมาประจำการอยู่ในพื้นที่ชายแดนซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะต้องการแสดงแสนยานุภาพของกองกำลังฝ่ายตนเอง แต่ของฝั่งไทยเองนั้นได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้วเพื่อรองรับหากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง
ส่วนกรณีแถลงการณ์ของฝ่ายกัมพูชาที่จะไม่นำกรณีพิพาทพื้นที่แนวชายแดนเข้าร่วมการเจรจา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่จะจัดขึ้นที่ กรุงพนมเปญ ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ นั้น ถือว่าเป็นวิธีการของฝั่งกัมพูชา ที่ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลของไทยที่จะต้องวางแผนในการเจรจาต่อรองเพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคลี่คลายโดยที่ไทยนั้นไม่เสียดินแดน และขอยืนยันแนวทางของฝั่งไทยว่าการใช้กำลังทหารนั้นจะเป็นแนวทางสุดท้ายในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและจะขออดทนให้ถึงที่สุด แต่ถ้าอดทนจนถึงที่สุดแล้วหากจำเป็นที่จะต้องปกป้องแผ่นดินก็จำเป็นต้องใช้กำลัง อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอดูผลการประชุมเจรจาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวในตอนท้าย
