พิษณุโลก - เตรียมเปิดสวนเนินมะปรางจัดใหญ่ท่องเที่ยวเกษตรชุมชน “ชวนชิมทุเรียนหลง-หลินลับแล-ผลไม้ของดีตำบลชมพู” กลางเดือนนี้ หลังล้ง-พ่อค้าคนกลางอ้างจีนตรวจสาร-เวียดนามตีตลาด กดราคาวูบจากปีก่อนครึ่งต่อครึ่ง ขณะที่ชาวบ้านตั้งเต็นท์วางแผงขายพรึ่บตลอดริมถนนทางขึ้นบ้านรักไทยแล้ว
นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมจัดงาน "ชวนชิม ทุเรียนหลง-หลินลับแลผลไม้ของดีตำบลชมพู" ประจำปี 2568 ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลชมพูจะจัดขึ้นที่บ้านรักไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ระหว่างวันที่ 14-15 มิถุนายน 2568
ซึ่งมีกิจกรรมการแข่งกินทุเรียน ประกวดผลผลิตทุเรียน บูทแสดงสินค้าโอทอป ผลไม้นานาชนิดจากสวนรักไทยแท้ๆ ที่เป็นพื้นที่บนยอดเขาสูง 450 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บรรยากาศเย็นสบาย เหมาะกับการปลูกทุเรียนหลากสายพันธุ์ มะม่วง ฝรั่ง และผลไม้อื่น มีรสชาติดีจากสภาพดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ กลางคืนมีประกวดธิดาชาวสวน ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง รำวงย้อนยุค
นางสาวดารา เอี่ยมส่งเสริม นายอำเภอเนินมะปราง กล่าวว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อบต.ชมพูเล็งเห็นความสำคัญของชาวบ้านที่ปลูกทุเรียนจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมมาต่อเนื่อง และปีนี้ทุเรียนประสบปัญหาการตลาดเล็กน้อย คือราคาตกต่ำ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากพิษณุโลกและใกล้เคียงเดินทางมาใช้เวลาอย่างมีความสุขทั้งเที่ยว เลือกซื้อหาทุเรียนเป็นการช่วยเหลือชาวบ้าน
นายบุญชนะ คลองภูเขียว นายก อบต.ชมพู กล่าวว่า พื้นที่บ้านรักไทยปลูกทุเรียนจำนวนมาก มีรายใหญ่จำนวน 1,800 ไร่ และชาวบ้านอีก 2,200 ไร่ รวมเป็น 4 พันไร่ ผลผลิตกำลังทยอยออกสู่ตลาด พร้อมกับเกิดกระแสทุเรียนเวียดนามทะลักมาตีตลาดจนราคาตกต่ำ จึงจัดงานเทศกาลเพื่อเป็นการดึงดูดผู้ซื้อจากต่างถิ่นมาช่วยเกษตรกร เพราะวันนี้หากเทียบปีที่ผ่านมาราคาถูกลงแล้ว วูบหายไปครึ่งต่อครึ่ง
นอกจากนี้ เนินมะปรางยังมีรีสอร์ตไว้นอนพัก สัมผัสบรรยากาศบนขุนเขา ก่อนชม ชิม ชอป ทุเรียนพันธุ์หลง-หลินลับแล หมอนทอง จากสวนชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งล่าสุดบางรายนำผลผลิตมาวางขายริมถนนตลอดริมสองฝั่งทางเข้าบ้านรักไทยแล้ว
ด้านนายศรณ์ กันตรัตนากุล เจ้าของสวนไฮฮิลล์ฟาร์ม อ.เนินมะปราง เปิดเผยว่า ตนปลูกทุเรียนเนื้อที่ 1,800 ไร่ ขณะที่ชาวบ้านก็ปลูกทุเรียนเช่นเดียวกันรวมเบ็ดเสร็จ 4,000 ไร่ ซึ่งปีนี้ผลผลิตทุเรียนลดลงจากปีก่อน เนื่องจากอากาศหนาวจัดในช่วงต้นปี อุณหภูมิต่ำสุดลงไปถึง 8 องศาเซลเซียส ทำให้ดอกทุเรียนบางส่วนร่วง ที่สวนไฮฮิลล์ฟาร์มได้หลงลับแลอยู่ที่ประมาณ 15,000 ลูก และหมอนทองประมาณ 20,000 ลูก
ขณะที่ราคาก็ลดลงจากปีก่อนถึงครึ่งหนึ่ง เนื่องจากปัญหาภาวะตลาด และคนกลางหรือล้ง กดราคารับซื้อต่ำ อ้างถึงสารตกค้าง ซึ่งสวนไฮฮิลล์ยืนยันว่าผลผลิตทุเรียนปลอดสารแคดเมียม 100 เปอร์เซ็นต์ ผลิตตามมาตรฐาน GAP กรมวิชาการเกษตร
“จริงๆ ตลาดจีนยังดีอยู่ คนจีนชอบทุเรียนไทย ยังมีตัวแทนจากจีน อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศสมารับซื้อเพื่อไปจัดจำหน่าย ส่วนตลาดในประเทศ ยังมีวางขายที่ชั้น 1 ห้างดิไอคอนสยาม กรุงเทพฯ รวมทั้งเปิดจำหน่ายควบคู่กับสวนไฮฮิลล์ฟาร์ม-สั่งซื้อทุเรียนของไฮฮิลล์ฟาร์มได้ทั้งหน้าสวนและออนไลน์ผ่านบริการจัดส่งของไปรษณีย์ไทยจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้”
นอกจากนี้ ยังมีบริการบุฟเฟต์ทุเรียนหลงลับแล 100% ไม่ผสมพันธุ์อื่น เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ คิดค่าบริการหัวละ 499 บาท หากจองล่วงหน้าจะได้ราคาพิเศษเพียง 450 บาท รับประทานไม่อั้นในเวลา 2 ชั่วโมง
กรณีหลายคนกังวลว่าทุเรียนเวียดนามจะเข้ามาตีตลาดไทยนั้น เจ้าของสวนไฮฮิลล์ฟาร์ม อ.เนินมะปราง มองว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะถ้าหน่วยงานรัฐไทยสกัดกั้นจริงๆ ก็ไม่สามารถเข้ามาได้ ด่านไทยต้องเข้มงวด ห้ามนำเข้าทุเรียนจากเวียดนาม เพราะไทยคือผู้ส่งออกทุเรียน ไม่ใช่ผู้นำเข้าทุเรียน หากทุเรียนเวียดนามเข้ามาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยได้ จะทำให้ภาพลักษณ์ทุเรียนไทยเสียหายมาก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผลผลิตทุเรียนของชาวบ้านกำลังทยอยออกจากสวน ท่ามกลางกระแสข่าวทุเรียนเวียดนามจะเข้ามาตีตลาดไทยนั้น ทำให้ราคาถูก-พ่อค้าคนกลางกดราคา ณ วันนี้ชาวบ้านดัมป์ราคาหลงลับแลเหลือเพียง 150-180 บาทเท่านั้น แต่สวนระดับพรีเมียมขายในราคาเฉลี่ย 300 บาท