ตราด -CEO เกาะกงอินเตอร์ ยันหากมีการปิดด่านถาวรจริงตามกระแสข่าวลือกระทบเศรษฐกิจ 2ชาติรวมทั้งนักเรียนและแรงานที่ต้องเดินทางมาเรียนหนังสือและทำงานในไทยแน่นอน วอน 2อดีตนายกฯไทย-กัมพูชาหยุดจ้อ ให้คนมีหน้าที่จริงคุยกันรักษาสัมพันธ์ยาวนาน
จากกรณีที่มีกระแสข่าว หน่วยงานความมั่นคงของไทยอาจจำเป็นต้อง ประกาศปิดด่านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รวม 6จุดผ่านแดนถาวร 6 และ 10จุดผ่อนปรน หากเกิดสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา จนทำให้หลายภาคส่วนแสดงความเป็นห่วงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจการค้าขายแนวชายแดน และความเป็นอยู่ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ และขอให้มีการเจรจากันอย่างสันติ
ขณะที่การลงสำรวจบรรยากาศบริเวณชายแดนหาดเล็ก ด้าน จ.ตราด-เกาะกง กัมพูชา เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.)พบว่าสถานการณ์ยังคงปกติ และยังมีรถยนต์ขนส่งสินค้าข้ามไปมาอย่างคึกคัก โดยที่ผู้ว่าฯ ตราด ยืนยันว่าปัจจุบันยังไม่มีคำสั่งจาก สมช.นั้น
วันนี้ ( 1 มิ.ย.) นายธิติเดช ทองภัทร รองประธานกรรมการ นิคมอุตสาหกรรมเกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ LYP GROUP ของ นายพัด สุภาภา สมาชิกวุฒิสภาสายสมเด็จฮุนเซ็น ได้ออกมาเปิดเผยถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่าหากเกิดขึ้นจริงก็ย่อมมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและประชาชนทั้ง 2 ประเทศอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการค้าชายแดนที่ทั้ง 2 ประเทศ มีมูลค่าการค้าขายร่วมกันมากถึงปีละเกือบ 4 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศไทยที่ส่งเข้าไปขายในกัมพูชา ที่มีมากกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปีเฉพาะบริเวณช่องทางผ่าน จ.ตราด สู่ จ.เกาะกง
" ไม่เกิดผลดีระหว่าง 2 ประเทศแน่ๆ เพราะไม่เพียงจะกระทบต่อการค้าขายเท่านั้น แต่แรงงานในภาคอุตสาหกรรมก็อาจจะต้องได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงานด้วย นอกจากนั้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจัง จ.ตราดและ จ.เกาะกง ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ไม่นับรวมถึงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศก็จะเสียหายด้วย"
รองประธานกรรมการ นิคมอุตสาหกรรมเกาะกง ยังยอมรับด้ววว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทางการเมืองระหว่าง 2 ประเทศที่ต้องร่วมกันเจรจาให้ได้ข้อสรุป เพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดผลบานปลายไปไกลกว่าที่คาดคิด
" ผมก็ไม่อยากเห็นความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่อยากเห็นทั้ง 2ฝ่ายนำคำกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีมาเป็นเหตุ เพราะทั้งสองคนอยู่วงนอกรัฐบาลไปแล้ว และอยากให้ผู้มีอำนาจแท้จริงได้พูดคุยกันน่าจะดีกว่า ที่สำคัญอย่านำคำพูดใครมาปั่นเพื่อให้เกิดความรักชาติเลย ซึ่งประเทศของเรามีพื้นที่ติดกันเวลามีปัญหาเกิดขึ้นที่ไหนก็ควรจะแก้ไขที่นั่นไม่ใช่เหมารวมทั้งหมดชายแดนเลย " นายธิติเดช กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพรรธ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองตราด เปิดเผยว่าสถานการณ์ชายแดนในวันนี้ยังปกติ และมีการเข้าออก รวมทั้งไปมาระหว่างประชาชนทั้ง 2จังหวัดตามปกติ ยืนยันว่าไม่มีความเคลื่นไหวใดๆที่จะส่งผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม หากมีการปิดด่านถาวรจริง แรงงานกัมพูชา รวมทั้งประชาชนชาวกัมพูชา และนักเรียนกัมพูชาที่เดินทางมาเรียนที่บ้านหาดเล็ก และผู้ที่ทำงานใน อ.คลองใหญ่ ก็จะไม่สามารถข้ามไปมาได้ สุดท้ายรัฐบาลกัมพูชา ก็ต้องเรียกกลับแรงงานเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
