ศูนย์ข่าวขอนแก่น-วันแรกของการจับปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.122 คนขับรถจักรยานยนต์และซ้อนท้าย ไม่สวมใส่หมวกนิรภัย ไม่เกิน 2,000 บาทคนซ้อนไม่สวมคนขับถูกปรับเพิ่ม 2 เท่า อย่างไรก็ตามตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นยังใจดีพยายามว่ากล่าวตักเตือนและย้ำครั้งต่อไปต้องสวม อหากแหกกฎไม่ปราณีต้องจ่ายเท่านั้น
วันนี้(1 มิ.ย.)พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ คชรัตน์ สารวัตรจารจร สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุพรชัย วงศ์ผาคุณ รองผู้กำกับจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนปราะชาชนที่ขับรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวนนิรภัย บริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงความผิด หลังจากที่ทางสำนักงานตำรวจแห่ชาติ ได้เข้มงวดบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 122 ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อก ทั้งคนขับคนซ้อน หากไม่สวม โดยเฉพาะคนซ้อนไม่สวมคนขับถูกปรับหนัก สูงสุด 2,000 บาท และผู้โดยสารไม่สวมหมวกกันน็อก คนขับถูกปรับเพิ่ม 2 เท่า เริ่ม 1 มิ.ย.68 บังคับใช้ทั่วประเทศ
โดยผู้ที่ไม่สวมใส่หมวกนิรภัยต่างก็อ้างว่า ตนเองขับรถจักรยานยนต์ออกไปทำธุระใกล้ๆบ้านนี้เอง จึงไม่ได้สวมหมวกนิรภัย ขณะที่หลายคนอ้างว่ายังไม่ทราบถึงนโยบายที่ตำรวจจราจรจะต้องมีการจับปรับในวันนี้เป็นวันแรก
พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กำหนดให้ถนนศรีจันทร์ตั้งแต่สี่แยกถนนศรีจันทร์ตัดถนนมิตรภาพ ไปจนถึงสี่แยกถนนศรีจันทร์ตัดถนนหน้าเมือง เป็นถนนตามโครงการถนนปลอดภัยสวมใส่หมวกนิรภัย 100% หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เข้มงวดบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 122 ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อก ทั้งคนขับคนซ้อน
หากไม่สวม โดยเฉพาะคนซ้อนไม่สวมคนขับถูกปรับหนัก สูงสุด 2,000 บาท และผู้โดยสารไม่สวมหมวกกันน็อก คนขับถูกปรับเพิ่ม 2 เท่า
ซึ่งวันนี้เป็นวันแรก ได้ให้ตำรวจจราจรออกมาตั้งจุดตรวจโดยจะเรียกคนที่ขับรถจักรยานยนต์และซ้อนท้าย ที่ไม่สวมหมวกนริภัยมาว่ากล่าวตักเตือน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อีกครั้ง ก่อนที่จะมีการจับปรับจริงในวันต่อไป จึงขอให้ประชาชนได้สวมใส่หมวกนิรภัย เพราะเป็นเรื่องที่มีการรณรงค์มานานแล้ว ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา มวกนิรภัย สามารถที่จะช่วยให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน ทำให้การบาดเจ็บหนักกลายเป็นเบาได้
จึงขอให้ประชาชนได้ทำตามกฎอย่างเคร่งครัด เพราะต่อไปทางตำรวจจะได้เริ่มทำการจับและปรับจริง โดยจะปรับขั้นต่ำ 500-2,000 บาททันที.