ตราด
- ชายแดนหาดเล็ก ด้าน จ.ตราด-เกาะกง กัมพูชา ยังคึกคัก รถยนต์ขนส่งสินค้ายังไปมาได้ตามปกติ
ขณะพ่อค้า คนรับจ้าง ผู้ประกอบการชี้กระทบแน่หากหน่วยงานด้านความมั่นคงประกาศปิดด่าน
วอน 2 ฝ่ายเจรจา ด้านผู้ว่าฯ ตราด ยันยังไม่มีคำสั่งจาก สมช.
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า
หน่วยงานความมั่นคงของไทย อาจจำเป็นต้อง ประกาศปิดด่านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ประกอบด้วยจุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง และจุดผ่อนปรน 10 แห่ง หากเกิดสถานการณ์ตึงเครียด
ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งจุดผ่านแดนถาวร และจุดผ่อนปรนในพื้นที่ จ.ตราด จันทบุรี
และสระแก้ว รวมอยู่ด้วยนั้น
วันนี้
( 31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบรรยากาศการขนส่งสินค้าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก
ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด พบว่ายังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีทั้งรถบรรทุกสินค้า
และรถยนต์ส่วนตัวของประชาชนทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้าออกตามปกติ
ขณะเดียวกันยังมีชาวกัมพูชา
ที่เดินทางจากฝั่งหาดเล็กข้ามไปยังบ้านจามเยี่ยม ต.มณฑลเสมา อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกง
ประเทศกัมพูชา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผู้ประกอบการของทั้ง 2
ประเทศที่ยังซื้อขายสินค้ากันตามปกติ โดยมีทหารนาวิกโยธิน หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่
182(ฉก.นย.ที่182 หาดเล็ก) ตรวจตราความเรียบร้อย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรคลองใหญ่
ที่ยังคงทำการตรวจใบส่งของและสินค้า
รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกันตามปกติเช่นกัน
นายณัฐพร คิรีเลิศ คนขับรถบรรทุกสินค้าจาก อ.คลองใหญ่ ไปยังตลาดจามเยี่ยม จ.เกาะกง บอกว่าตนเองไม่เห็นด้วยกับมาตรการปิดด่านถาวร โดยเฉพาะที่บ้านหาดเล็ก จ.ตราด เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อการค้าขายระหว่าง2 จังหวัด และอยากให้ผู้บริหารทั้ง 2 ประเทศเห็นใจประชาชนตามแนวชายแดนที่ต้องทำมาหากิน และอยากให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศพูดคุยกันด้วยดีเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน
ด้าน นายบัวลา ชาวกัมพูชาในจังหวัดเกาะกง ที่เข้ามารับจ้างเข็นรถสินค้าจากบ้านจามเยี่ยมมายังฝั่งหาดเล็ก บอกว่าในฐานะที่ตนเองเป็นชาวกัมพูชาย่อมไม่มีสิทธิที่จะคัดค้านแนวคิดดังกล่าว แต่ก็อยากเห็นผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ประเทศพูดคุยกันด้วยดี เพราะหากปิดด่านย่อมได้รับผลกระทบด้วยกันทั้ง2 ฝ่าย โดยเฉพาะประชาชนที่ทำมาหากินในพื้นที่ชายแดน
ขณะที่ นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ยืนยันว่าขณะนี้ทางจังหวัดยังไม่ได้รับคำสั่งหรือนโยบายจากกระทรวงมหาดไทย แต่อย่างใด
