จันทบุรี- นายกสมาคมการค้าฯชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี ซัดแรงสื่อไร้แหล่งข่าว นำเสนอข้อมูลเตรียมปิดด่านชายแดนทำปัญหาเพียงจุดเดียวลามไปทั่ว สร้างความปั่นป่วนทางการค้า ชี้หลายพื้นที่ความสัมพันธ์ชายแดนยังดีมาก
จากกรณีที่หน่วยงานความมั่นคงของไทยเตรียมประกาศปิดด่านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วยจุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง ได้แก่1.ช่องสะงำ อ. ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ 2. ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ 3.บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 4.บ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี 5. บ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ 6. บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
รวมทั้งจุดผ่อนปรน 10 แห่ง ประกอบด้วย 1.ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี 2. บ้านตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 3. บ้านหนองปลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 4. บ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว 5. บ้านซับตารี อ.สอยดาว จ.จันทบุรี
6. บ้านบึงชนังล่าง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี 7. บ้านสวนส้ม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี 8. บ้านหมื่นดาน ต.บ่อพร้อย อ.บ่อไร่ จ.ตราด 9. บ้านชมง ตำบลนนทรี อ.บ่อไร่ จ.ตราด และ10. ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านปวด จ.บุรีรัมย์ ฯลฯ
หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนทำให้ฝ่ายทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บหลายนาย จนมีการการปลุกกระแสในโซเชียลมีเดียภายในประเทศกัมพูชา งดซื้อสินค้าไทยทุกชนิดเพื่อเป็นการตอบโต้
ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงของไทย ตระหนักถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนที่ทำมาค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน และหวั่นว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกันนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 31 พ.ค.)ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ออกมาตั้งคำถามต่อสื่อมวลชนว่า การนำเสนอข้อมูลเรื่องการปิดด่านดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ออกมาจากใครใช่หน่วยงานความมั่นคงหรือไม่
เนื่องจากเกรงว่าการนำเสนอข่าวโดยไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิง จะทำให้ผู้คนที่การค้าขายชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะภาคเอกชน เกิดความสับสน
และเรียกร้องให้ให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีข่าวปล่อยในลักษณะดังกล่าว เพราะอาจมีกลุ่มคนไม่หวังดีที่พยายามปลุกปั่นจนนำไปสู่ปัญหาบานปลาย
ดร.รัฐวิทย์ ยังบอกอีกว่า ด่านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-ภาคตะวันออก มีด่านถาวร 6 แห่ง จุดผ่อนปรนกว่า 10 แห่ง ทั้งหมดผู้ประกอบการไทย-กัมพูชา ยังไปมาและส่งสินค้าผ่านช่องทางในแต่ละวัน
" กรณีการปล่อยข่าวโดยไม่มีข้อมูลอ้างอิง ต้องถามกลับไปว่ามีความจำเป็นเหตุใดถึงจะต้องปิดด่าน เพราะทุกวันนี้ยังค้าขายระหว่างกันได้ดี หรือ เป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายความมั่นคงเพื่อยุทธศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่กรณีนี้ไม่ควรทำ"
ดร.รัฐวิทย์ ยังเผยถึงมูลค่าการค้าชายแดนโดยเฉพาะ จ.สระแก้ว จันทบุรี และตราด ว่ามีการส่งออกสินค้ามากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สร้างรายได้มหาศาล จึงอยากขอให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคล อย่าทำให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว
เนื่องจากจุดที่เกิดปัญหามีอยู่เพียงจุดเดียว ตลอดแนวชายแดน จึงอยากให้แก้ปัญหาเฉพาะจุดนั้น เพราะจุดอื่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ของทั้ง 2 ประเทศ มีการทำความเข้าใจและพบปะกันบ่อยครั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ขณะเดียวกันพื้นที่ภาคตะวันออกตอนนี้ มีความต้องการใช้แรงงานกัมพูชาในประเภทกิจการเก็บผลไม้จำนวนมาก และอยู่ระหว่างขั้นตอนในการขอนำเข้า จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องการนำเสนอและขอให้โฟกัสในเฉพาะจุดที่เกิดปัญหา