จันทบุรี – ตำรวจ 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จัดประชุมเสริมความมั่นคงชายแดน จันทบุรี –พระตะบอง-ไพลิน ลงนามความร่วมมืออย่างเป็นทางการร่วมสกัดกั้นแรงงานผิดกฎหมาย-อาชญากรรมข้ามชาติ
วันนี้ ( 30 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดพระตะบองและจังหวัดไพลิน ราชอาณาจักรกัมพูชา รวมทั้งตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ราชอาณาจักรไทย ได้จัดให้มีการประชุมร่วมกัน ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีจุดประสงค์สำคัญที่การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย สร้างแนวชายแดนที่ปลอดภัย มั่นคง และยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลไทยและกัมพูชา
โดยมี พล.ต.ต.ดาน เองบุญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระตะบอง, พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และ พล.ต.ต.เซ็ง โซคุณ (Pol.Maj.Gen. Seng Sokun) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดไพลิน รวมทั้ง ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าการท่องเที่ยวชายแดนไทย -กัมพูชา และข้าราชการตำรวจจากทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วม
การประชุมดังกล่าวยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน พัฒนาความร่วมมือในด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของตำรวจตามแนวชายแดน
โดยมีข้อเสนอหลัก 5 ข้อคือ1. เสนอให้มีการประชุมหารือในระดับท้องถิ่นระหว่างอำเภอ หน่วยเฉพาะกิจชายแดน และกองบังคับการ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างทันท่วงที และสร้างความเข้าใจร่วมกัน
2. ขอความร่วมมือจากฝ่ายไทยในการสืบสวนและจับกุมนายหน้าที่เกี่ยวข้องกับการนำแรงงานผิดกฎหมายข้ามแดน พร้อมส่งเสริมการให้ความรู้กฎหมายแก่ประชาชนพื้นที่ชายแดน
3. กรณีฝ่ายไทยจับกุมแรงงานกัมพูชาที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขอให้ดำเนินการส่งกลับโดยใช้แนวทางตามกฎหมายและปฏิบัติอย่างสุภาพ
4. ขอให้ช่วยสกัดกั้นการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี และสินค้าผิดกฎหมายต่าง ๆ อย่างจริงจัง และ 5. เสนอให้ฝ่ายไทยจัดอบรมให้ความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยีในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจของกัมพูชา
ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในการรับข้อเสนอดังกล่าวและจะรายงานให้ผู้นำระดับสูงของแต่ละประเทศเพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไป และยังได้มีการจัดทำบันทึกการประชุมเป็น 3 ฉบับ (2 ภาษา) มีเนื้อหาเหมือนกันทุกฉบับ และลงนามร่วมกันอย่างเป็นทางการ โดยมีผลผูกพันตั้งแต่วันที่ลงนาม