มหาสารคาม - แชร์ว่อนโซเชียล โรคซิฟิลิสกำลังระบาดในกลุ่มนักศึกษา จ.มหาสารคาม คลินิกเดียวตรวจ 2 วัน เจอคนไข้ติดเชื้อถึง 3 คน ด้าน สสจ.มหาสารคามออกโรงเตือนให้ระวังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เฉพาะโรค HIV พบผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 136 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย 120 ราย พบมากสุดกลุ่มอายุ 20-49 ปี 67 ราย ผู้ป่วยสะสมเสียชีวิตแล้ว 49 ราย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หลังเพจของคลินิกโรคผิวหนังชื่อดังของจังหวัดโพสต์แจ้งเตือน “ซิฟิลิส กำลังระบาด!! ในหมู่นักศึกษา จ.มหาสารคาม 2 วัน เจอคนไข้ 3 คน มาด้วยผื่นแดงแขนขา ลำตัว หนึ่งในนั้นได้ HIV แถมมาด้วย อย่าลืมป้องกันกันด้วยนะคะ ด้วยความห่วงใย”
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก บางโพสต์ก็แจ้งเตือนให้ใช้ถุงยางอนามัย บางโพสต์ก็บอกให้ป้องกัน และบางโพสต์ก็ยังบอกอีกว่ายังมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ อีก เช่น โรคหนองใน ทางที่ดีที่สุดก็คือการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งนอกจากจะคุมกำเนิดได้แล้ว ก็ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
นายแพทย์ วัฒนา ศรีวัฒนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของจังหวัดมหาสารคามมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขมีการรณรงค์ให้ตรวจในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา จึงทำให้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากงานระบาดวิทยา ตั้งแต่ปี 2568 พบผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมดถึงปัจจุบันจำนวน 443 ราย แบ่งเป็น 5 โรคหลัก ได้แก่ โรค HIV จำนวน 136 ราย คิดเป็น 14.40 ต่อแสนประชากร โรคหนองใน จำนวน 102 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 10.80 ต่อแสนประชากร โรคซิฟิลิส จำนวน 85 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 9.00 ต่อแสนประชากร
โรคไวรัสตับอักเสบบี จำนวน 51 ราย คิดเป็น 5.40 ต่อแสนประชากร และโรคหูด 25 ราย คิดเป็น 2.65 ต่อแสนประชากร กลุ่มผู้ป่วยสูงสุดอยู่ในกลุ่มอายุ 20-29 ปี รองลงมาคือ กลุ่ม 15-19 ปี และกลุ่มอายุ 30-39 ปี ตามลำดับ
ส่วนสถานการณ์โรค HIV พบผู้ป่วยรายใหม่ 136 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย 120 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือกลุ่มอายุ 20-49 ปี 67 ราย มีผู้ป่วยสะสมเสียชีวิตจำนวน 49 ราย
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไม่ต้องตระหนกตกใจ แต่ขอให้ตระหนักหากพบว่ามีความเสี่ยงก็สามารถมาตรวจได้ที่โรงพยาบาล แต่อย่างไรก็ตามการป้องกันเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งสามารถคุมกำเนิด และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ดีที่สุด และการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควรตรวจปีละ 1 ครั้ง ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ หากพบลักษณะอาการที่ผิดปกติ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศ หรือรอยโรคที่ดูแล้วแปลกๆ ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ที่คลินิกนิรนามในโรงพยาบาลชุมชน และคลินิกบ้านร่มเย็น โรงพยาบาลมหาสารคาม
นอกจากนี้ยังมีโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ภัคธิญาณ์ บุญตรา ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่าวันอะไรนี่ วันนี้ตรวจเลือดคนไข้ 3 ราย มีทั้งส่งจากคลินิก และวอล์กอินเข้ามาตรวจเอง ผลตรวจตามรูป
1. TPHA บวก, VDRL reactive 1:128 มีรอยโรคชัดเจนออกดอกที่ฝ่ามือ
2. TPHA บวก VDRL titer 1:64 มีผื่นแดงขึ้นที่ใบหน้า คุณหมอขอตรวจ HIV เพิ่ม ปรากฏว่าผลบวก ตามรูป
3. TPHA บวก, VDRL titer 1:32 ตอนนี้น่าจะกำลังระบาดแหละดูออก ระวังกันด้วยนะคะชาวมหาสารคาม เป็นห่วง
หลังจากโพสต์นี้ของเธอเผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแส talk of the town กลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจ ซึ่งก็มีทั้งให้กำลังใจและตำหนิในแง่ของความเหมาะสมของการโพสต์ข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งเธอก็ได้โพสต์อธิบายในโพสต์อีกโพสต์หนึ่งของเธอว่า เธอเป็นนักเทคนิคการแพทย์ อยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ ให้ความรู้แก่ประชาชนคนที่เข้ามาดู บางครั้งเจอเคสแปลกๆ เคสดีๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ก็จะโพสต์เป็นลำดับเรื่องราว 1 2 3 สอดแทรกความรู้เข้าไป เพราะอยากให้ประชาชนรู้ว่าวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ทำอะไรบ้าง อยากเผยแพร่วิชาชีพตัวเอง ซึ่งโคตรภูมิใจในวิชาชีพตัวเองเลย ซึ่งก็ได้ผล
มีคนโทร.มาสอบถาม ส่งรูปภาพลักษณะฝ่ามือที่เป็นมาให้ดู หรือเดินเข้ามาในคลินิกแล้วยื่นมือมาให้ดู ก็เลยขอตรวจ ผลก็เป็นบวกจริงๆ ตามคาด ซึ่งรูปที่ลงไป ก็ได้ขออนุญาตคนไข้แล้ว ขอเป็นเคสศึกษา ขอใช้รูป เพื่อให้คนอื่นๆ ได้เห็น ได้ตระหนัก
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ เอ็มแล็บ คลินิกเทคนิคการแพทย์ ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม พูดคุยกับ คุณภัคธิญาณ์ บุญตรา นักเทคนิคการแพทย์ โดยคุณภัคธิญาณ์เล่าว่า เมื่อวันก่อนมีคนไข้ถูกส่งตัวมาจากคลินิก และวอลก์อินเข้ามาตรวจเลือด ก็พบว่าติดเชื้อซิฟิลิส 3 ราย โดย 1 ใน 3 รายมีผล HIV เป็นบวกด้วย ซึ่งช่วงนี้ถือว่ามีคนไข้เข้ามาขอตรวจเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ที่เข้ามาตรวจก็จะมีลักษณะรอยโรค เช่น ออกดอกที่มือ ผมร่วง หรือมีภาวะเสี่ยงต่างๆ ส่วนใหญ่คนไข้ที่มาก็จะเป็นวัยรุ่น
ในส่วนของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีผลเป็นบวก ก็ได้แนะนำให้ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลหรือตามคลินิกที่ทำการรักษา เพราะที่นี่ตรวจอย่างเดียวไม่ได้ทำการรักษาให้ ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเปอร์เซ็นต์ตรวจพบผลเป็นบวกเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อน จึงได้โพสต์แจ้งเตือนให้ทุกคนเฝ้าระวังและสังเกตอาการตัวเอง
