อุบลราชธานี - โรงเรียนชายแดนน้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซ้อมรับสถานการณ์หลบภัย หากเกิดการปะทะกันขึ้นอีกระหว่างทหารไทยกัยทหารกัมพูชา เผยหลุมหลบภัยและบังเกอร์ยังแข็งแรงสามารถใช้งานได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนของฝ่ายความมั่นคงได้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์เป็นระดับสีเหลือง ไม่ให้ตื่นตระหนก แต่ให้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้
ขณะที่โรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงจุดปะทะมากที่สุด ห่างจากช่องบก ต.โดมประดิษฐ์ ประมาณ 15 กิโลเมตร ได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการซักซ้อมแผนแจ้งเหตุและอพยพทันที เพื่อเป็นการป้องกันและให้เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติตัวหากเกิดความไม่สงบขึ้นจริงๆ
จากการสังเกตพบว่าทางโรงเรียนและนักเรียนมีความพร้อมและเข้าใจขั้นตอนเป็นอย่างดี ส่วนหลุมหลบภัยและบังเกอร์ป้องกันก็ยังคงมีความแข็งแรงและปลอดภัยเช่นกัน
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยา นายองอาจ พงษ์อารีย์ กล่าวถึงการฝึกซ้อมอพยพหนีภัยครั้งนี้ว่า เน้นการสร้างทักษะให้นักเรียนสามารถอพยพได้อย่างเป็นระบบ ไม่ตื่นตระหนก เพื่อให้พร้อมรับมือได้ทั้งเหตุความไม่สงบหรือภัยคุกคามอื่นๆ ซึ่งบังเกอร์หลุมหลบภัยของโรงเรียนยังคงอยู่ในสภาพแข็งแรง ใช้งานได้จริง
สำหรับพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี มีโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้แนวปะทะบริเวณช่องบก จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วยโรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยา, โรงเรียนดงสว่างวิทยา, โรงเรียนนาจะหลวย, โรงเรียนน้ำยืนวิทยา, โรงเรียนบุณฑริกวิทยาคาร และโรงเรียนนาโพธิ์พิทยาคม ซึ่งทุกแห่งล้วนอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ล่าสุดได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ปะทะชายแดนบริเวณช่องบกไทย-กัมพูชา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยเฉพาะความรุนแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ และได้สั่งการไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กำชับไปยังสถานศึกษาที่อยู่บริเวณแนวชายแดน ให้ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนือง หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่เกินกำลังจะรับได้ ให้รีบแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทันที เพื่อรายงานความเสียหายกลับมายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยด่วน
"ความปลอดภัยของผู้เรียนและครูต้องมาก่อน หากพบว่าพื้นที่มีความสุ่มเสี่ยงต่ออันตราย ผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถสั่งหยุดเรียนได้ตามอำนาจของตนเองได้ทันที โดยไม่ต้องขออนุมัติจากส่วนกลาง พร้อมส่งกำลังใจให้กับนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่เสี่ยง และยืนยันว่าจะร่วมกันดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุด" พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว
