xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)ส่อง “ร.ร.ประถมลำปาง” ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงสอนครบวงจร พ่อแม่พาลูกเรียนเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ส่องกระบวนการเรียนการสอน ร.ร.ขนาดเล็กลำปาง..ผอ.น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอพียงบ่มเพาะเด็กแบบครบวงจร-แก้ปัญหางบฯ ไม่พอ ปรับโรงเรียนเป็นเหมือนบ้าน ให้เด็กเรียนรู้การดำรงชีวิต จนผู้ปกครองพาลูกหลานเข้าเรียนเพิ่ม สวนทางโรงเรียนไกลปืนเที่ยงอื่น


โรงเรียนบ้านสบคร่อม ต.บ้านค่า อ.เมืองลำปาง ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 27 กิโลเมตร มีครูและบุคลากรทั้งหมด 11 คน 8 ชั้นเรียน ตั้งแต่อนุบาล 2 อนุบาล 3 และ ป.1-6 ซึ่งปีนี้มีเด็กสมัครเข้าเรียนเพิ่มขึ้น จากปี 2567 มี 57 คน ปีนี้ 2568 เพิ่มขึ้นอีก 5 คน รวม 62 คน เยอะสุดคือชั้นอนุบาล 2 รวม 11 คน ซึ่งสวนทางกับโรงเรียนขนาดเล็กที่อื่นๆ ที่มีเด็กสมัครเข้าเรียนลดลงทุกโรงเรียนในเขตพื้นที่เดียวกัน

ภายใต้การบริหารงานของ ผอ.อินจันทร์ กองจินา ซึ่งถือเป็น ผอ.นักพัฒนา ไม่นั่งรอเงินงบประมาณอย่างเดียว หลังเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2562 ก็เริ่มปรับปรุงโรงเรียนในหลายด้าน ด้วยบุคลิกที่เข้ากับชุมชน ผู้ปกครอง ได้เป็นอย่างดี ทำให้การประสานขอความร่วมมือและขอความช่วยเหลือเป็นไปอย่างคล่องตัว และด้วยที่โรงเรียนขนาดเล็ก งบประมาณจำกัด จึงได้มีการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้กับการเรียนการสอนของโรงเรียนด้วย

สิ่งที่เห็นได้เด่นชัดและเป็นรูปธรรม นอกจากการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว โรงเรียนแห่งนี้สอนเด็กๆ ให้รู้จักการใช้ชีวิต ดำรงชีวิต ให้เกิดคุณค่าต่อตัวเอง  ครอบครัว และสังคมไปพร้อมๆ กัน

แต่ละสัปดาห์ครูจะพาเด็กๆ เรียนรู้เรื่องพืชกินได้ พืชดั้งเดิมของท้องถิ่น รู้จักการแยกขยะ ทั้งในโรงเรียน และนำตะกร้าใส่ขยะแบบพกพาไปไว้ตามงานต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านแยกขยะ โดยทางโรงเรียนจะนำขยะที่เป็นแก้ว ขวดพลาสติกกลับมาที่โรงเรียน และคัดแยกไว้


สอนเด็กๆ ได้รู้จักพืชผักชนิดต่างๆ เก็บเมล็ดมาเพาะกับแก้วพลาสติกไว้ อย่างต้นชงโค หรือผักเสี้ยว (ภาคเหนือ) ที่หล่นลงมากับพื้นดิน และบางเมล็ดเมื่อโดนฝน ซึ่ง ผอ.ได้สอนเด็กๆ เก็บ โดยระบุว่าหนึ่งเมล็ดที่เก็บได้ หากโตเป็นต้นกล้าจะขายได้ในราคาต้นละ 10 บาทเลยทีเดียว

จากนั้นก็สอนการผสมดิน และการเพาะเมล็ดผักลงในแก้วพลาสติก และบริเวณที่ว่างภายในโรงเรียนเพื่อให้ได้เก็บมาทำอาหารกลางวัน และปลูกไว้หน้าโรงเรียนเพื่อนำมาทำอาหาร-จำหน่ายให้ผู้ปกครอง ชาวบ้าน เพื่อนำรายได้เข้าโรงเรียน ส่วนต้นกล้าผักหลากชนิดที่หมุนเวียนปลูกตามฤดูกาลที่เพาะได้ก็จะนำไว้แจกให้ชาวบ้านที่นำขวดหรือแก้วพลาสติกมาให้กับโรงเรียน และให้เด็กนักเรียนนำไปให้ผู้ปกครองปลูกไว้รับประทานที่บ้านเพื่อลดค่าใช้จ่าย และวางจำหน่ายเพื่อหารายได้เข้าโรงเรียนด้วย ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านถือเป็นลูกค้าประจำของโรงเรียนที่มาซื้อผักที่ปลูกเพราะปลอดสารพิษ

นอกจากนี้ ผอ.ยังได้สร้างศาลาการเรียนรู้ไว้ภายในโรงเรียน 1 หลัง โดยความร่วมมือจากครู ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันสร้าง ซึ่งศาลาแห่งนี้กลายเป็นที่รับแขกเล็กๆของโรงเรียน และยามปกติศาลาแห่งนี้เด็กๆ นักเรียนจะมาเรียนรู้การทำอาหาร โดยมีครู นักการของโรงเรียนคอยดูและสอน จนเด็กๆ ทำได้เอง รวมทั้งยังเป็นที่ซ้อมดนตรีไทยของนักเรียนอีกด้วย


ผอ.อินจันทร์เล่าว่า มารับตำแหน่งปี 2562 ก็เริ่มนำปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้ ด้วยที่เป็นโรงเรียนเล็กงบประมาณน้อยไม่เพียงพอ เด็กๆ ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของคนในหมู่บ้าน ทำอย่างไรให้เด็กได้กินอิ่ม ได้ความรู้และได้ประสบการณ์ชีวิตที่จะทำให้อยู่รอดได้

เริ่มจากการทำเกษตรภายในโรงเรียน ปลูกผักที่กินได้ เน้นผักพื้นบ้าน ชงโค ชะอม พริก มะเขือ เพาะเห็ด คือภายในโรงเรียนมีผักทุกชนิดที่จะสามารถนำมาประกอบอาหารได้ เลี้ยงปลา ไก่ สอนเด็กให้รู้จักการหารายได้จากสิ่งที่มีอยู่ คือการร่วมกับชุมชนนำร่องนำถังขยะไปฝากไว้ตามงานต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านคัดแยกขยะและนำขวดแก้ว พลาสติกมาต่อยอดปลูกต้นกล้าผักชนิดต่างๆ เพื่อปลูกนำมาทำอาหารกลางวันให้เด็ก ขายและแจกให้ผู้ปกครอง

ซึ่งก็มีรายได้เข้าโรงเรียนได้ส่วนหนึ่ง ที่สำคัญคือเด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเองและทำได้จริง สามารถนำไปต่อยอดทำเป็นอาชีพได้ ปัจจุบันโรงเรียนได้มีการต่อยอดไปเรื่อยๆโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เข้ามาสนับสนุนกิจกรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น