บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ รวมตัวเผาพริกเผาเกลือหน้าที่ว่าการอำเภอ แสดงพลังค้านไม่เอาโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ผวาก่อมลพิษ ทั้งฝุ่นละออง มลภาวะทางเสียง น้ำเสีย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และอุบัติเหตุ หลังเดินหน้ากว้านซื้อที่กว่าพันไร่และเริ่มปรับพื้นที่ก่อสร้างไม่สนเสียงคัดค้านชาวบ้าน วอน จนท.รัฐและผู้นำชุมชนวางตัวเป็นกลางไม่เอื้อประโยชน์นายทุน
วันนี้ (28 พ.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวมวล ของชาวบ้าน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ล่าสุดกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด พร้อมตัวแทนชาวบ้านหลายหมู่บ้านใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันที่หน้าที่ว่าการอำเภอชำนิ เพื่อเดินหน้าคัดค้านการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวมวล
หลังตัวแทนบริษัทโรงงานน้ำตาลในจังหวัดนครราชสีมาได้มากว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ตำบลหนองปล่อง อ.ชำนิมากกว่า 1,000 โร่ เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาล ขนาดกำลังผลิต 20,000 ตันอ้อย/วัน พร้อมโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 54 วัตต์ และขณะนี้เริ่มตัดต้นไม้ปรับพื้นที่แล้วเพื่อจะเดินหน้าก่อสร้างโรงงานน้ำตาล แม้ชาวบ้านจะแสดงพลังคัดค้านไม่เอาโรงงานน้ำตาล ขณะที่มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่ศาลาประชาคม อำเภอชำนิก็ตาม
โดยชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านต่างบอกตรงกันว่าหากมีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลในพื้นที่จะก่อให้เกิดมลพิษทั้งฝุ่นละออง มลภาวะทางเสียง น้ำเน่าเสีย ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพร่างกาย วิถีชีวิต การทำมาหากิน และกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งเสี่ยงอุบัติเหตุจากรถบรรทุกอ้อยด้วย
ชาวบ้านที่มารวมตัวกันวันนี้ได้มีการเผาพริกเผาเกลือบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอ พร้อมถือป้ายข้อความคัดค้านไม่เอาโรงงานน้ำตาล เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการคัดค้านการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล พร้อมทั้งได้มีการยื่นหนังสือต่อนายอำเภอชำนิ เรียกร้องให้กำชับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำชุมชนให้วางตัวเป็นกลาง อย่าเอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการจนไม่สนความทุกข์ร้อนชาวบ้าน
นายสมพงษ์ สงกูล ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้เพื่อแสดงพลังคัดค้านการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่เพราะเกรงจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย และสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ยังได้ยื่นหนังสือต่อนายอำเภอชำนิ กรณีที่มีเจ้าหน้าที่บางคนหรือผู้นำชุมชนบางคนมีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง ซึ่งการออกมารวมพลังคัดค้านโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลก็เพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องสิทธิชุมชน ดูแล อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาทางกลุ่มโอโชนรักบ้านเกิดได้ศึกษาบทเรียน ผลกระทบจากการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ภาคอีสานที่มีการจัดตั้งโรงงานมาแล้ว
อีกทั้งพื้นที่ที่ถูกจัดตั้งโรงงานดังกล่าวอยู่ติดห้วยลำปะเทีย และหัวยลำนางรองของชุมชน ที่ได้พึ่งพาอาศัยหาอยู่หากิน และการจัดตั้งโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตรยังครอบคลุม 6 ตำบลเบื้องต้น ที่มีหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อีกทั้งบุรีรัมย์มีโรงงานน้ำตาลอยู่แล้ว 1 แห่ง มองว่าการสร้างเพิ่มไม่มีความจำเป็น แต่ควรจะเปิดลานรับซื้ออ้อยเพิ่มขึ้นมากกว่า
ขณะที่ นางประหยัด โล่สุวรรณ ชาวบ้านบอกว่า หมู่บ้านของตัวเองอยู่ใกล้กับสถานที่ที่จะมีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล จึงเกรงว่าจะเกิดผลกระทบทั้งเรื่องมลพิษทางเสียง น้ำเสีย และอันตรายจากรถบรรทุกอ้อยโดยเฉพาะเด็กนักเรียน จึงได้ออกมาคัดค้านไม่ให้มีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล เพราะเกรงจะส่งผลกระทบต่อลูกหลานในอนาคตด้วย ก็อยากให้หน่วยงานภาครัฐและทางโรงงานเล็งเห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ด้วย