ศูนย์ข่าวขอนแก่น-บมจ.สกิน ลาบอราทอรี่ หรือ SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทย ผนึกบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน พบนักลงทุน จ.ขอนแก่น นำเสนอขายหุ้นไอพีโอ มั่นใจศักยภาพและแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องออคิดบอลรูม โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จํากัด (มหาชน) หรือ SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทย Skinsista และ Dermie จับมือบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ที่ปรึกษาการเงิน ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST เดินสายโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลทางการเงิน พบนักลงทุนรายย่อย ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนใน จ.ขอนแก่นและใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จํากัด (มหาชน) หรือ SKIN กล่าวว่า บริษัทฯเตรียมเดินทางไปนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน หรือโรดโชว์ เพื่อนำเสนอข้อมูลธุรกิจให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก โดยจะเริ่มเดินสายที่ชลบุรีเป็นจังหวัดแรก ตามด้วยนครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา (หาดใหญ่) และกรุงเทพมหานคร ตามลำดับ ในระหว่างวันที่ 19 พ.ค.-9 มิ.ย. 2568
ขณะที่นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนเกี่ยวกับศักยภาพในการเติบโตของ SKIN รวมถึงแผนการดำเนินงานในอนาคต โดยมั่นใจว่า SKIN จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง
ด้านนายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จํากัด (มหาชน) หรือ SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทยที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเครื่องสำอางภายใต้ 2 แบรนด์หลัก คือ SKINSISTA ซึ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภควัย 18-30 ปี ที่มีปัญหาเรื่องผิว อาทิ ปัญหาสิว หรือริ้วรอย
ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบ Offline เช่น 7-11, Watsons, CJ MORE NINE BEAUTY, Beautrium และ Konvy และช่องทาง Online เช่น Shopee, Lazada และ Tiktok shop รวมถึงแบรนด์เวชสำอางน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว Dermie ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาเรื่องผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
บริษัทมีผลิตภัณฑ์หลัก คือเซรัมบำรุงผิวหน้า และครีมกันแดด โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้มากกว่า 90% จากทุกช่องทางจำหน่ายในปี 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าสร้างการรับรู้ในวงกว้าง พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในรูปแบบ Full Package และรูปแบบซอง ตลอดปี 2568 เพื่อเพิ่มความสะดวกให้การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมถึงปรับกลยุทธ์เตรียมขยายธุรกิจเต็มรูปแบบ
“บริษัทมีความพร้อมอย่างยิ่งในการเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนในทุกจังหวัด โดยเชื่อว่าด้วยศักยภาพ และแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนจะได้รับการตอบรับที่ดี และได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่มีศักยภาพทั้ง 8 จังหวัด เราพร้อมที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งร่วมไปกับนักลงทุนทุกคน” นายชาญวิทย์กล่าว