xs
xsm
sm
md
lg

อบต.กบินทร์บุรี จัดพิธีสู่ขวัญควาย อนุรักษ์ประเพณีอันดีงามไม่ให้สูญหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปราจีนบุรี- อบต.กบินทร์บุรี จัด"พิธีสู่ขวัญควาย ชิงชัยกระบือบาลภาคตะวันออก" ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568 อนุรักษ์ประเพณีอันดีงามไม่ให้สูญหาย

ค่ำวานนี้ (24 พ.ค.)​ องค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้จัด "พิธีสู่ขวัญควาย ชิงชัยกระบือบาลภาคตะวันออก" ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568 ที่บริเวณลานหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์เพื่อให้เกษตรกรผู้เรียนกระบือได้สืบทอดประเพณีอันดีงามในการอนุรักษ์ประเพณีสู่ขวัญควายไทย

และยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีการสู่ขวัญควายให้คงอยู่สืบไป คู่กับการส่งเสริมเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรที่เลี้ยงโค-กระบือได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันทั้งในและนอกพื้นที่ตำบลกบินทร์ เพื่อให้เกษตรกรเล็งเห็นความสำคัญ ผลักดันการเลี้ยงโค-กระบือ ให้เป็นอาชีพที่สร้างรายได้

อีกทั้งยังเป็นทางเลือกของเกษตรกรในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและปริมาณการผลิตกระบือพันธุ์ดี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเผยแพร่อนุรักษ์วัฒนธรรม และส่งเสริมเศรษฐกิจของท้องถิ่น

โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธี และมี ดร.บังอร วิลาวัลย์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด ,นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วม


ภายในงานได้จัดให้มีพิธีทาวสงฆ์ การสวดเจริญพระพุทธมนต์ สาธิตการใช้ควายไถนา หว่านข้าว การแสดงของกลุ่มนางรำ การแสดงกลองยาว และพิธีพราหมณ์บายศรีสู่ขวัญ เรียกขวัญควาย

การประกวดควายภายในจังหวัดภาคตะวันออก ชิงถ้วยรางวัลทั้งหมด 8 รุ่นคือ 1. ชิงชัยกระบือบานเพศเมีย รุ่นอายุไม่เกิน 18 เดือน 2. ชิงชัยกระบือบานเพศผู้ รุ่นอายุไม่เกิน 18 เดือน 3.ชิงชัยกระบือบันเพศเมีย รุ่นอายุไม่เกิน 2.6 ปี 

4.ชิงชัยกระบือบาลเพศผู้ รุ่นอายุไม่เกิน 2.6 ปี 5.ชิงชัยกระบือบาลเพศเมีย รุ่นอายุไม่เกิน 3.6 ปี 6.ชิงชัยกระบือบานเพศผู้คนอายุไม่เกิน 3.6 ปี 7.ชิงชัยกระบือบาลเพศผู้ คนอายุไม่เกิน 4.6 ปี และ8.ชิงชัยกระบือบานยอดเยี่ยมเพศผู้ / เมีย (Grand champion)


นายถัน นามพิลา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์ เผยเพิ่มเติมว่า ประเพณีการสู่ขวัญควาย เป็นการเตือนสติ เตือนจิต เตือนใจให้คนมีความกตัญญูกตเวทีรำลึกนึกถึงบุญคุณของผู้ที่ได้ช่วยเหลือ และยังเป็นการตอบแทนบุญคุณ "ควาย" ที่คนได้ใช้แรงงานในการไถ่คาดเพื่อหวาดเพาะปลูกข้าว ปลูกพืชผัก จนได้รับผลประโยชน์ได้ข้าวสำหรับบริโภคเลี้ยงชีวิต

และในบางครั้ง คนไถคาด ยังดุด่าเฆี่ยนตีควายโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อคนระลึกบุญคุณของควายซึ่งเป็นสัตว์ที่มีบุญคุณ ชาวนาจึงหาวิธีจะตอบแทนคุณของควาย ขออโหสิกรรมต่อควายโดยวิธีสู่ขวัญ

รวมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประเพณีสู่ขวัญควายให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกร ผู้เลี้ยงควายไทยให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงประเพณีอันดีงาม








กำลังโหลดความคิดเห็น