ศูนย์ข่าวขอนแก่น-พบองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิง ริมถนนมะลิวัลย์ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เผยคนสร้างคือสัตวแพทย์อดีตสามีหมอเตย และเคยเป็นลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เจ้าตัวปฏิเสธให้ข้อมูลเหตุหย่าร้างกับหมอเตยนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่จังหวัดขอนแก่น มีพระประธานองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิง ตั้งอยู่ริมถนนมะลิวัลย์ ภายในพุทธสถานอุทยานหลวงพ่อวัดไร่ขิง บ้านโพนสว่าง หมู่ 10 ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ใกล้กับป้อมยามตำรวจทางหลวง ซึ่งถูกยกให้เป็นสถานที่สักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิง ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิง และองค์พระสังกัจจายน์ ด้านหลังองค์พระมีตราวัดไร่ขิงพระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม ขนาดใหญ่ประทับอยู่ที่องค์พระสังกัจจายน์ด้วย
ทั้งนี้บริเวณพุทธสถานอุทยานหลวงพ่อวัดไร่ขิงนั้น ก็มีคนงานกำลังขุดดินเพื่อเตรียมปลูกต้นไม้โดยรอบบริเวณ ซึ่งจากการสอบถามคนงานทราบว่ากรมทางหลวงมีโครงการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อปลูกต้นไม้ไว้เป็นจุดแวะพักรถของผู้เดินทางสัญจรผ่านถนนมะลิวัลย์ ไว้พักรถพักคน และได้กราบไหว้พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิงด้วย
บริเวณฐานองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิง พบว่าภายในมีพระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ภายในฐานองค์พระ พร้อมทั้งมีตู้รับบริจาคค่าน้ำ-ค่าไฟ วัดพุทธอุทยาน รวมทั้งตู้รับบริจาคเป็นตู้เซฟ แต่พบรอยถูกงัดแงะเสียหายไม่มีเงินอยู่ในตู้แล้ว ด้านหลังองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิงมีเลข พ.ศ.2557 ประทับอยู่ ซึ่งเป็นปีพ.ศ.ที่สร้างองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิง รวมเวลากว่า 10 ปีแล้ว ด้านบนของฐานสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์และสามารถกราบองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิงได้อีกด้วย
จากข้อมูลการสร้างองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิงนั้น พบว่าผู้สร้างคือนายสัตวแพทย์สมชาย หรือหมอช้าง อดีตสามีของหมอเตย คนสนิทของทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เคยเป็นลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาสเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปพบกับหมอช้าง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับพุทธสถานอุทยานหลวงพ่อวัดไร่ขิง แต่หมอช้างให้คนงานมาบอกว่าไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เพราะเป็นเรื่องนานมาแล้วไม่ขอพูดถึง
จากการตรวจสอบข้อมูล หมอช้างได้เลิกกับหมอเตยมานานกว่า 10 ปีแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันอีกหลังเลิกรากัน โดยบล็อกช่องทางติดต่อทุกช่องทาง เพราะจบกันแบบไม่ดีไหร่ สาเหตุที่เลิกรากันไปนั้นเพราะนิสัยไม่เข้ากัน ช่วงเป็นลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงนั้น เป็นช่วง 10 ปีที่แล้ว จึงได้สร้างพุทธสถานอุทยานหลวงพ่อวัดไร่ขิงไว้ ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ กระทั่งพบว่าเป็นพื้นที่กรมทางหลวงจึงถูกทวงคืนและสั่งให้เคลื่อนย้ายรูปปั้นต่างๆออก ปัจจุบันเหลือเพียงองค์ประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิง กับพระสังกัจจายย์ที่อยู่ด้านข้างเท่านั้น
นางบัวศร อินทัพไทย อายุ 73 ปี ชาวบ้านบะยาว ม.6 ต.หนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หนึ่งในคนงานที่มาขัดดินเตรียมปลูกต้นไม้ให้กับกรมทางหลวง เล่าว่า บ้านของตนอยู่หมู่บ้านติดกับสถานที่แห่งนี้ โดยองค์พระประธานสร้างมาได้ 10 ปีแล้ว รู้เพียงแต่ว่าเป็นสาขาของวัดไร่ขิง แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป ส่วนตัวเคยมาครั้งสองครั้ง แต่จะมีชาวบ้านที่สัญจรผ่านมาแวะมากราบสักการะขอพรอยู่ตลอด และยกมือไหว้บีบแตรรถเมื่อขับผ่านมา เมื่อวานก็มีคนมาแก้บนด้วย หลังจากเห็นข่าวก็ตกใจไม่คิดว่าจะเกี่ยวเนื่องกันด้วย รู้แค่ว่าเป็นสาขาที่นครปฐม แต่ลึกๆไม่ทราบว่าเป็นมายังไง
ที่ดินตรงนี้เป็นที่ของกรมทางหลวง แต่คนสร้างพระนั้นไม่ใช่กรมทางหลวง มีการมาสร้างเอาไว้ ทางกรมทางหลวงจึงทวงพื้นที่คืน และมีการปรับปรุงมาปลูกต้นไม้ในวันนี้ด้วย ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นนั้น มองว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคล ยังคงเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่ และที่นี่ก็ไม่เคยเห็นอดีตเจ้าอาวาสมาที่นี่ มีเพียงพระที่อยู่ด้านในมาคอยดูแลบ้างแต่ไม่เคยพบเห็นการทำพิธีอะไรหรือบวงสรวงอะไร
ขณะที่นางสาวฉวีวรรณ แสงกล้า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโพนสว่าง ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบคนสร้างคือหมอสมชาย หรือหมอช้าง เป็นคนในพื้นที่ มีที่ดินติดกันกับที่ตรงนี้ กระทั่งมาทราบภายหลังว่าเป็นที่ของกรมทางหลวงจึงมีการทวงพื้นที่คืนไปทำเป็นจุดแวะพักให้กับผู้สัญจรริมถนน และให้หมอสมชายย้ายของสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกไป เหลือเพียงพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ และเห็นว่าองค์พระประธานหากตั้งอยู่จุดเดิมก็ไม่ได้เสียหายอะไรจึงยังเก็บไว้ ให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้แวะสักการะ
แต่มีบางส่วนเคลื่อนย้ายไปที่วัด ซึ่งอยู่ด้านหลัง แต่ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับวัดไร่ขิงแต่อย่างใด ไม่มีใครทราบที่มาที่ไปในการสร้าง รวมถึงเส้นทางการเงินด้วย ที่ผ่านมาจะมีชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปผ่านมาและคนที่ศรัทธาวัดไร่ขิงนำพวงมาลัยมาไหว้ และบริจาคภายในตู้บริจาค แต่ปัจจุบันถูกงัดเอาเงินออกไปหมดแล้ว เพราะไม่มีคนดูแล
