ระยอง - แฉขบวนการทุนจีนหลอกนำทุเรียนเวียดนามราคาตกผสมทุเรียนไทยส่งขายจีน ด้าน ส.ส.ระยอง ขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดจี้ตำรวจตามลากตัวขบวนการเห็นแก่ได้ทำลายชื่อเสียง- ทุบตลาดทุเรียนไทย
วันนี้ ( 23 พ.ค.) นายพงศธร ศรเพชรนรินท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง เขต 3 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน เข้าตรวจสอบโกดังไม้ยางพาราใน อ.แกลง จ.ระยอง หลังได้แจ้งว่ามีการลักลอบนำทุเรียนจากเวียดนาม มาผสมกับทุเรียนไทย เพื่อเตรียมส่งออกไปยังประเทศจีน
ผลการตรวจสอบพบรถตู้คอนเทนเนอร์ 1ใน 2 คันที่จอดอยู่ภายในโกดังบรรทุกทุเรียนแกะเนื้อจากประเทศเวียดนาม ส่วนอีกคันเป็นรถเปล่าเตรียมขนส่งไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งตัวแทนชาวจีนเจ้าของสินค้าไม่สามารถแสดงเอกสารการนำเข้าและการขนย้ายได้ ทั้งยังอ้างว่าเอกสารอยู่ที่โรงงานในเขตเมืองจันทบุรี
และยังมีรายงานว่ารถทั้ง 2คันได้ขับหลยหนีออกจากโกดังไปแล้ว ซึ่ง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้กำชับให้ นายกันตภณ สุขสงค์ นายอำเภอแกลง ติดตามรถทั้ง 2 คันพร้อมทุเรียนของกลางที่บรรทุกกลับมาให้ได้
จากการตรวจสอบภายในโกดังยังพบอุปกรณ์รีแพ็คทุเรียน เช่น เหล็กสไลด์ กล่องบรรจุภัณฑ์ และเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งคนงานให้การยอมรับว่า ได้รับคำสั่งจากนายทุนจีน ให้นำทุเรียนเวียดนาม มารีแพ็คผสมกับทุเรียนไทย เพื่อหลอกลวงผู้บริโภคชาวจีน
เช่นเดียวกับนายทุนชาวจีน ที่ให้การรับสารภาพตรงกันว่าได้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจริง
เบื้องต้น ส.ส.พงศธร ได้ประสานหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่กลับถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่บางราย อ้างว่า “ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า” ทำให้ ส.ส.ต้องเดินทางไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ. สายันต์ ปัญจรักษ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านกร่ำ เพื่อเร่งผลักดันการดำเนินคดีด้วยตนเอง
พร้อมระบุว่าจะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดในวันพรุ่งนี้เพื่อหามาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดต่อไป
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเกษตรอำเภอ กำลังตรวจสอบได้มีโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้าหาจนมีเจ้าหน้าที่บางรายแยกย้ายกลับโดยไม่ร่วมเข้าแจ้งความ จนทำให้เกิดข้อกังขาถึงเบื้องหลังและความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า ทุเรียนเวียดนามเคยถูกทางการจีนเข้มงวดในการตรวจสอบด้านสารเคมี โดยเฉพาะแคดเมียมที่ตกค้าง จนทำให้ถูกจำกัดการนำเข้าและราคาตกต่ำเป็นเหตุให้นายทุนบางกลุ่มหันมาใช้วิธีลักลอบนำเข้ามาผสมกับทุเรียนไทยเพื่อเลี่ยงข้อจำกัดและสร้างมูลค่าการส่งออกในการส่งไปยังประเทศจีน
และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าว เพื่อปกป้องชื่อเสียงของทุเรียนไทยในตลาดโลก.