อุบลราชธานี-ญาติเด็กชาย ม.1ที่ถูกเพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกันกระหน่ำแทงเสียชีวิตเรียกร้องให้แก้กฎหมายเอาตัวมือแทงติดคุกไม่ใช่กักตัวในสถานพินิจฯจิตใจโหดเหี้ยมเกิน หวั่นโตขึ้นจะทำผิดร้ายแรงซ้ำอีก เผยเด็กทั้งคู่ไม่ถูกกันตั้งแต่เรียนชั้นประถม ผูกอาฆาตกันมาจนถึงชั้นมัธยมฯ
จากกรณีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงเพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกันในช่วงพักเที่ยงในโรงอาหาร และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดที่โรงเรียนมัธยมศึกษาอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าวันนี้( 23 พ.ค.)ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี บรรดาญาติพี่น้องของเด็กชายศุภกฤต หรือน้องเจมส์ สีแสด อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมศึกษาในอำเภอพิบูลมังสาหาร ได้มารับศพนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านดอนนาเยีย ต.บ้านแขม อ.พิบูลมังสาหาร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องเจมส์ โดยยังไม่กำหนดการฌาปนกิจ เพราะรอนายบุญญฤทธิ์ สีแสด ผู้เป็นพ่อที่ทราบเรื่องและกำลังเดินทางกลับมาจากประเทศไต้หวัน
สำหรับเหตุการณ์แทงกันครั้งนี้ ญาติของน้องเจมส์ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า มาจากเรื่องในอดีตที่น้องเจมส์กับเด็กชายเอ นักเรียนมือแทง เคยมีเรื่องผิดใจ ร้องตะโกนด่ากันตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมศึกษา แต่ไม่มีการทำร้ายกัน จนเด็กชายเอย้ายโรงเรียนไปเรียนที่อื่น จนกระทั่งขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เด็กทั้งสองกลับมาเจอกันที่โรงเรียนมัธยม เด็กชายเอ มือแทงมีการมองหน้าน้องเจมส์และทำท่าทางใส่ ตั้งแต่เปิดเทอม แต่น้องเจมส์ไม่สนใจ เพราะเป็นเด็กนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ส่วนวันเกิดเหตุ ขณะที่น้องเจมส์พักเที่ยง และเข้ามาที่โรงอาหาร มายืนคุยอยู่กับเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน เด็กชายเอ มือแทงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ได้ล้วงเอามีดปลายแหลมยาวประมาณ 10 นิ้วที่เตรียมมาจากบ้านออกจากชายเสื้อและจ้วงแทงน้องเจมส์ตามลำตัวแขนและคอ5-6 แผลจนล้มลง พ่อค้าแม่ค้าที่เห็นเหตุการณ์ จึงเข้ามาห้ามและช่วยกันทำ PCR ให้น้องเจมส์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหน่วยกู้ภัยจะมารับตัวนำส่งโรงพยาบาลและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ส่วนเด็กชายเอ ก็ถูกควบคุมตัว นำไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน อ.เมืองอุบลราชธานีในวันนี้
ซึ่งจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นดังกล่าว นางมาลัย สีแสด อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นป้าและ น.ส.จันทร์จิรา สีแสด อายุ 32 ปี น้าของน้องเจมส์ได้เรียกร้องอยากให้มีการแก้ไขกฏหมายให้มีการลงโทษเยาวชนที่ทำความผิดร้ายแรงต้องรับโทษติดคุกเหมือนผู้ใหญ่ เพราะถ้ากฎหมายยังอ่อนอยู่อย่างนี้ คนที่ทำผิดถึงขั้นฆ่าคนตายตั้งแต่เด็กจะได้ใจ ติดเป็นนิสัยไปก่อเหตุได้อีกตอนโต
พร้อมทั้งเรียกร้องให้โรงเรียนต่างๆ มีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียนที่ไปเรียนหนังสือ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบน้องเจมส์กับคนอื่นอีก
