ชาวบ้านมะขาม จ.จันทบุรี รวมตัวขอความเป็นธรรมถูกสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง- ต้นทุเรียนออกจากพื้นที่เขื่อนคีรีธาร

จันทบุรี –ชาวบ้านใน อ.มะขาม จ.จันทบุรี กว่า 20 คนรวมตัวบุกโรงพัก ขอความเป็นธรรมตำรวจ กรณีถูกยึดที่ทำกินรอบเขื่อนคีรีธาร อ้างทำกินมานานนับสิบปีวันนี้กลับถูกสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง- ต้นทุเรียน 

วันนี้ (22 พ.ค.) ชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยร้อยเวร สภ.มะขาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.มะขาม เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกยึดคืนพื้นที่บริเวณโดยรอบโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร ซึ่งเป็นเขตป่าปัถวี (ปัด-ถะ-หวี) และป่าตกพรม อ.มะขาม จ.จันทบุรี ที่อยู่ในความดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ

หลัง ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่มีนโยบายให้ราษฎรออกจากพื้นที่โดยรอบเขื่อนฯ ทั้งในเขตป่าปัถวีและป่าตกพรม ยกเว้นผู้ที่มีเอกสารสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมายที่สามารถยืนยันสิทธิ์ชี้แจงได้

แต่เนื่องจากพื้นที่บางส่วนมีประกาศเขตทับซ้อนระหว่างกรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ และ ส.ป.ก. จึงทำให้ชาวบ้านหลายรายเข้าใจคลาดเคลื่อนและเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา


และล่าสุดยังมีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ต้นทุเรียน และวัสดุต่าง ๆ ออกจากพื้นที่ ส่งผลให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งยอมถอนตัวและคืนพื้นที่ให้ภาครัฐ แต่ก็ยังคงมีชาวบ้านอีก 82 รายที่ยืนยันจะต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกิน


โดย พ.ต.อ.ธราเทพ ได้รับปากว่าจะเป็นคนกลางในการรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้านแต่ละราย และได้บันทึกคำให้การไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งผู้ที่ยินยอมคืนพื้นที่จะได้รับการยกเว้นไม่ดำเนินคดี ส่วนผู้ที่ยังมีข้อข้องใจเรื่องประกาศเขตทับซ้อนจะได้รับการชะลอการดำเนินคดีไว้ก่อนเพื่อเปิดทางให้เจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

และยังบอกอีกว่าในวันที่ 5 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ดร.หิมาลัย จะเดินทางลงพื้นที่จ.จันทบุรี​ อีกครั้งเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจดำเนินการทางกฎหมาย

" เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมคำให้การของชาวบ้านไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะดำเนินคดีด้วยความรอบคอบและเห็นใจประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงเกินความจำเป็น" พ.ต.อ.ธราเทพ กล่าว


ขณะที่ นายบรรชา แก้วแกมกาญ อายุ 89 ปี ชาวบ้าน ม. 6 ต.ปัถวี เผยด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจว่า ตนเองอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่า 30 ปีและได้ ปลูกกล้วย มะละกอ ทุเรียน รวมทั้งลองกอง ในพื้นที่รวม 5 ไร่ โดยได้ตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ใช้เองแต่ในวันนี้กลับถูกเจ้าหน้าที่นำป้ายมาติดอายัดพื้นที่โดยไม่บอกกล่าว

" ถ้าเจ้าหน้าที่เอาที่ของผมไปหมดแล้วผมจะอยู่ยังไง จะสูบน้ำจากที่ไหน เวนคืนก็ไม่ได้ทำ จะขอใช้ชั่วคราวก็ยังพอรับได้ แต่นี่กลับยึดไปเลย ผมอายุมากแล้ว ไม่มีแรงจะเริ่มใหม่ ถ้าไม่มีที่ทำกิน ก็ยอมตายดีกว่า”ชาวบ้านปัถวี กล่าว