กาญจนบุรี - คดีสะเทือนเมืองกาญจน์! ดีเจเตเต้ถูกอุ้มฆ่าหมกป่า ตำรวจเผยเบื้องหลังโยงขบวนการค้ายา “ไอ้มุ้ย” พ่อค้ายารายใหญ่ข้ามชาติ ล่าสุด เปิด 5 ข้อหาหนักโทษสูงสุดประหารชีวิต ล่าคนร้ายหนีหัวซุกหัวซุน จับตาหากขัดขืนยิงสวนเจอวิสามัญทันที
จากกรณีคดีสะเทือนขวัญ “ดีเจเตเต้” หรือ นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ อายุ 33 ปี ถูกอุ้มหายช่วงดึกของวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 และพบเป็นศพในอีก 4 วันต่อมา โดยถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด มือถูกมัดไพล่หลัง ก่อนนำร่างไปทิ้งในป่าละเมาะ หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมทีมสืบสวนลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานอย่างเร่งด่วน ขณะที่ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เดินทางมาอำนวยการด้วยตัวเอง และมีคำสั่งชัดเจน หากพบคนร้ายยิงต่อสู้ ให้เจ้าหน้าที่วิสามัญได้ทันที
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจภูธรกาญจนบุรีได้ออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาในคดีนี้ พร้อมตั้งรางวัลนำจับรายละ 100,000 บาท ขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 1 ราย คือนายธนเดช เชื้อทอง แต่ยังให้การไม่เป็นประโยชน์ ส่วนอีก 4 รายยังหลบหนี
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นสมุนในเครือข่ายยาเสพติดของ “ไอ้มุ้ย” หรือ นายสุทัศน์ เดชคำ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ผู้มีหมายจับติดตัวหลายคดี ปัจจุบันหลบหนีข้ามไปฝั่งเมียนมา อยู่ในพื้นที่ชายแดนตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์
ตำรวจยังคงระดมกำลังปูพรมค้นหาทั่วกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง คาดว่าคนร้ายยังแฝงตัวอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
โดยผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี คือ นายนพพิจิตร เดือนฉาย นายธราเทพ ใบบัว นายภัคนัท แจ่มน้อย นายณรงค์เดช อ่อนละมุน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ เปิด 5 ข้อหาหนัก โทษสูงสุดถึงประหารชีวิตประกอบด้วย 1.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยมีลักษณะเป็นอั้งยี่ซ่องโจร โทษจำคุก 5–20 ปี ปรับสูงสุด 400,000 บาท 2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และอำพรางศพ โทษประหารชีวิต 3.ทำลายหลักฐานก่อนการชันสูตรพลิกศพ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี 4.ลักทรัพย์และทำลายพยานหลักฐาน โทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 5.มีและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงร่วมซ่องโจร โทษรวมกันสูงสุดจำคุก 10 ปี และปรับสูงสุด 200,000 บาท