เชียงราย - ภาคประชาชนมอง “อิ๊งค์” แค่สั่งการปกติ ไร้แนวทางใหม่แก้ปัญหาเหมืองทอง/แรร์เอิร์ท ทุนจีนในเขตว้าแดงตอนใต้ปล่อยสารปนเปื้อนน้ำกก-น้ำสายจนชาวบ้านเสี่ยงทุกลุ่มน้ำ เรียกร้องเร่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ดึงเมียนมา-จีนร่วมรับรู้และหาทางออก
เครือข่ายภาคประชาชน องค์กรเอกชน และนักวิชาการในพื้นที่ลุ่มน้ำกก-น้ำสาย-น้ำโขง ต่างออกมาระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้กลไกรัฐตามปกติสั่งการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ซึ่งไหลมาจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ผ่าน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ไม่มีอะไรใหม่
อีกทั้งยังเป็นคำสั่งซ้ำกับมาตรการเดิมที่เคยทำ เช่น ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก ลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์ อย่างต่อเนื่อง ฯลฯ สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดตามและรายงานการจัดการแหล่งที่มาของปัญหา เจรจาหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อการหยุดหรือปรับปรุงวิธีการทำเหมือง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนในแม่น้ำดังกล่าว ส่วนที่เหลือเป็นข้อสั่งการที่หน่วยงานราชการต่างๆ ได้ทำอยู่แล้ว
ดร.สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดเผยว่า ปัจจุบันเครือข่ายในพื้นที่ยังคงยืนยันที่จะให้มีการจัดตั้ง "คณะทำงานเฉพาะกิจ" ขึ้นมา เนื่องจากปัญหานี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานทั้งภายในและนอกประเทศ บางเรื่องอาจเป็นข้อจำกัดกับหน่วยงานในประเทศ โดยเฉพาะการประสานกับต่างประเทศหรือแม้แต่ชนกลุ่มน้อยในเมียนมา นอกจากนี้ขอให้เชิญผู้แทนจากประเทศเมียนมาและจีน มารับทราบปัญหานี้ด้วย เพื่อการหาทางออกร่วมกัน
ทั้งนี้ หลังเกิดปัญหาสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายรวมไปถึงในแม่น้ำโขงที่แม่น้ำทั้งสองสายไหลไปบรรจบ เครือข่ายภาคประชาชนได้ดิ้นรนหาข้อมูล จนบ่งชี้ได้ว่าพื้นที่ต้นน้ำ ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) จ.เมืองสาด และใกล้เคียง มีการทำเหมืองทองหลายจุด รวมทั้งทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ททางฝั่งตะวันออก-ตะวันตกของแม่น้ำกกอย่างน้อย 2 เหมือง โดยแต่ละเหมืองตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำด้วย
กิจการทั้งหมดเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2567 และนับตั้งแต่นั้นก็เกิดภาวะแม่น้ำกก-แม่น้ำสายขุ่น ตลอดจนเกิดน้ำท่วมใหญ่มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาระดับภาค (RBC) จะจัดประชุมกับ RBC ฝ่ายเมียนมา ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 2568 ซึ่งฝ่ายไทยมีแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานฯ จะบรรจุวาระเรื่องผลกระทบในแม่น้ำให้ฝ่ายเมียนมาได้รับทราบเป็นครั้งแรก
ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชน องค์กรเอกชน และนักวิชาการในพื้นที่มีกำหนดรวมตัวจัดกิจกรรมใหญ่ครั้งแรกในวันที่ 5 มิ.ย. 2568 ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก เบื้องต้นกำหนดขอใช้สนามหน้าศาลากลาง จ.เชียงราย ติดกับแม่น้ำกก และจะมีการทำพิธีกรรมตามความเชื่อ ทั้งสืบชะตาแม่น้ำกก พิธีของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ กิจกรรมเสวนา ฯลฯ เพื่อกระตุ้นให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม