xs
xsm
sm
md
lg

เจออีก 4 บัญชีนอกระบบวัดไร่ขิง คาดเงินสดมากกว่า 300 ล้าน "ทิดแย้ม" เอาเข้าบัญชีส่วนตัวแล้วโอนให้สาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - “บิ๊กเต่า” เผยพบมีบัญชีนอกระบบเพิ่มอีก 4 บัญชี รวม 53 บัญชี ไม่ยืนยันว่าปกติทั้งหมด ย้ำเงินสดอาจมีมากกว่า 300 ล้านบาทที่โอนไปยังสาวที่ถูกจับกุม เตรียมแถลงความคืบหน้า 22 พ.ค.นี้ ย้ำยังไม่ออกหมายจับเพิ่ม

วันที่ 20 พ.ค.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดคดี นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และพวก ยักยอกเงินวัดไร่ขิง ว่าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดพบบัญชีเพิ่มเติมอีก 4 บัญชี รวมบัญชีวัดที่ตรวจสอบพบขณะนี้ 53 บัญชี แต่ยังไม่ยืนยันว่าทุกบัญชีผิดปกติ ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ส่วนจะมีการโอนเข้าบัญชีของวัดหรือตัวอดีตเจ้าอาวาสวัดแล้วถูกโยกย้ายถ่ายเทไปที่ไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน จึงทำให้ไม่สามารถให้รายละเอียดของเรื่องนี้ได้ แต่การตรวจสอบที่เปิดเผยได้ขณะนี้ คือไม่ได้มีแค่เงินในบัญชี แต่มีเรื่องเงินสดที่ยังตรวจสอบไม่ได้อาจมีมากกว่า 300 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ เป็นบัญชีที่เป็นของวัด โอนไปยังบัญชีอดีตเจ้าอาวาส และโอนต่อไปที่ น.ส.อรัญวรรณ จำนวนหลายบัญชี

สำหรับการสร้างวัตถุมงคล พบข้อมูลแล้วว่าวัดมีรายได้ในส่วนนี้และมีการทำบัญชีบัญชีแยกออกไปเป็นบัญชีเฉพาะกิจ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด

ส่วนกระแสข่าวเรื่องของการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจำนวน 24 ราย ขณะนี้นี้ยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่ม เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดให้มีความชัดเจน แต่หากพบใครทำผิดก็จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ได้ตั้งว่าจะต้องมีจำนวนคนที่ถูกออกหมายจับเท่าไหร่

สำหรับแนวทางการสอบสวนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังคงลงพื้นที่มายังวัดไร่ขิง เพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดให้ครบทุกบัญชีการเงินของวัดไร่ขิง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของแต่ละบัญชี ซึ่งจะต้องทำการบ้านอย่างหนัก ดูว่ามีบัญชีไหนเล็ดลอดออกไปบ้างหรือไม่ โดยเป็นการตรวจสอบทุกมิติ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงกลับมาทำระบบเป็นมาตรฐานให้กับวัดต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้แต่ละวัดชี้แจงรายได้ที่มาของเงินวัดได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เป็นแบบรัฏฐาธิปัตย์ ที่พระมีอำนาจสั่งการทุกอย่าง จนทำให้ระบบการเงินของวัดมีปัญหา โดยยืนยันว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่กำลังทำอยู่จะเป็นการทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในวงการสงฆ์

นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้แจ้งว่าในวันที่ 22 พ.ค.ที่จะถึงนี้จะมีการแถลงข่าวสรุปภาพรวมทั้งหมดในคดี แต่เป็นการแถลงความคืบหน้าที่อาจจะยังทำการสืบสวนสอบสวนไม่ครบถ้วนทุกประเด็น ซึ่งเป็นการแจ้งให้กับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนได้เห็นการทำงานที่มีความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่ โดยในวันพรุ่งนี้ยังคงมีความเคลื่อนไหวที่วัดไร่ขิงต่อเนื่อง เพราะทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม

ขณะที่ น.ส.อนงนาต ชีวานันทกุล ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 5 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายได้ทั้งหมดของวัด ไม่ว่าจะเป็นตู้บริจาค การขายวัตถุมงคล การขายอาหารปลา การขายของสวัสดิการต่าง ๆ ของวัด การให้เช่าที่ของวัด ทั้งตลาดเช้า ตลาดเย็นและตลาดวันอาทิตย์ เป็นการดูแหล่งรายได้ของวัดทั้งหมด โดยวัดไร่ขิงมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายถือเป็นต้นแบบของการทำบัญชีเสนอต่อสำนักพระพุทธศาสนา มีการทำบัญชีทั้งแบบรายวัน การสรุปยอดรายรับรายจ่ายเป็นรายเดือน แต่ยอมรับว่ามีเงินบางส่วนที่พบว่าไม่ถูกชี้แจงเป็นเงินที่อาจมีการรายงานไม่ครบถ้วน และในการพบบัญชีเพิ่มไม่ได้หมายความว่าเป็นการซุกซ่อนบัญชี เนื่องจากวัดไร่ขิงมีมูลนิธิองค์กรการกุศลด้วย ซึ่งใน 1 มูลนิธิก็มีหลายบัญชี ยอมรับว่ามีข้อสงสัย แต่ก็ไม่ใช่ทุกบัญชีจะพบความผิด

สำหรับทุกบัญชีของวัดไร่ขิงจะต้องมีการรายงานต่อสำนักพระพุทธศาสนาทุกบัญชีเลยหรือไม่นั้น ทาง ปปท. จะต้องตรวจสอบหลักเกณฑ์กับทางสำนักพุทธฯ อีกครั้ง ยืนยันว่านี่ไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีทางอาญา แต่เป็นการหามาตรการให้เกิดระบบการเงินที่ดีของวัด ซึ่งก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับวัดอื่นดำเนินการด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น