อุดรธานี - เตือนคนอยากมีบ้าน! ประชาชนร้องสื่อพร้อมแฉกลอุบายบริษัทรับสร้างบ้านทิพย์ ขอเบิกเงินก่อน แต่พอสร้างจริงทำแค่ฐานรากแล้วเชิดเงินหนี แจ้งความตำรวจกลับบอกพฤติการณ์ผิดสัญญาจ้างเป็นคดีแพ่งไม่สามารถรับแจ้งความคดีอาญา พอศาลสั่งคืนเงินกลับไม่มีไม่หนีไม่จ่าย เผยบริษัทรับสร้างบ้านทิพย์มีนายตำรวจเอี่ยวด้วย
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำอุดรธานี พร้อมนายภานุมาศ จิตวสินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากนายประพันธ์พงศ์ สุริเย หรือเอ้ อายุ 49 ปี ชาวอุดรธานี ว่า อยากจะออกมาแฉกลลวงคนรับสร้างบ้านพร้อมเตือนภัยคนที่คิดกำลังจะสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่อุดรธานีมีคนถูกหลอกให้จ่ายเงินสร้างบ้านแล้วก่อสร้างไม่เสร็จ เสียหายนับล้านๆ บาท
นายประพันธ์พงศ์เล่าว่า “ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าผมเคยถูกหลอกจากคนพวกนี้ โดยถูกหลอกให้ร่วมลงทุน 5 เดือน ที่ผ่านมาผมรู้วิธีการทำงานของคนพวกนี้ว่าทำงานกันยังไง มีวิธีการอย่างไร” โดยวิธีการของคนพวกนี้ เริ่มต้นจากการสร้างตัวตนผ่านสื่อโซเชียล มีโปรไฟล์ในการรับเหมาก่อสร้างบ้านก่อนไปซื้อผู้ติดตาม มีการเอารูปบ้านที่สร้างเสร็จแล้วโพสต์ลงเยอะๆ ส่วนรูปภาพบ้านที่โพสต์ลงนั้นเป็นของจริงที่เคยสร้างเสร็จนานมาแล้ว นอกจากรูปบ้านแล้วเขาก็ยังมีการถ่ายรูปการส่งมอบบ้านให้ดูน่าเชื่อถืออีกด้วย
“พอมีคนสนใจติดต่ออยากสร้างบ้าน กลุ่มคนพวกนี้ก็จะทำวิธีการตามขั้นตอน เริ่มนัดพูดคุยตกลงทำสัญญาหาแบบบ้านที่มีราคาตั้งแต่ 1-2 ล้านบาทมาเสนอ พอตกลงทำสัญญาก็ขอเบิกเงินล่วงหน้า เบิกเงินมาเขาก็จ้างช่างมาสร้างโครงสร้างบ้าน สร้างเสร็จก็เบิกเงินต่อ อ้างว่ากำลังขึ้นโครงหลังคาและก่อฉาบ หลังจากนั้นก็ทิ้งงานไปเลย” นายประพันธ์พงศ์กล่าว และบอกอีกว่า
คนพวกนี้รู้กฎหมายดีว่าจะทำอย่างไรให้เข้าข้อกฎหมายแพ่ง ไม่เป็นคดีอาญา เมื่อบ้านสร้างไม่เสร็จ ผู้เสียหายก็ไปแจ้งความ ตำรวจก็จะอธิบายว่าพฤติการณ์ลักษณะนี้เข้าข่ายคดีแพ่ง ให้ไปจ้างทนายฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย พอชนะคดีศาลตัดสินสั่งยึดทรัพย์ แต่ก็ไม่มีทรัพย์ยึดและคืนเงินผู้เสียหายได้ เท่าที่มีข้อมูลตอนนี้มีผู้เสียหายมากกว่า 50 รายถูกบริษัท อ ต ฮ (ตัวย่อ) หลอกเชิดเงิน ส่วนใหญ่อยู่ในอุดรธานีและอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ตนรู้จักกับน้องผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ น.ส.ผลไม้ (นามสมมติ) รู้จักสนิทสนมกันมานาน ตอนนั้นก็เห็นเขาเจริญก้าวหน้าเติบโตจากแม่ค้ากลายเป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ถือเป็นคนมีเงินคนหนึ่งจากธุรกิจรับสร้างบ้าน พอน้องเขาได้รู้จักตำรวจและเริ่มติดพนัน เขาก็เอาเงินเอาทรัพย์สินที่หามาได้เล่นการพนันจนหมด ชีวิตเขาก็พลิกผัน แต่เขารู้วิธีการว่าหากรับสร้างบ้างโดยใช้วิธีการนี้ก็จะได้เงิน
นายประพันธ์พงศ์เล่าต่ออีกว่า ปัจจุบันกลุ่มคนพวกนี้เปิดบริษัท 2 บริษัท ชื่อหนึ่งมีผู้หญิงเป็นเจ้าของ ชื่อหนึ่งมีผู้ชายเป็นเจ้าของ รับสร้างบ้านราคาตั้งแต่ 1-2 ล้านบาท เวลาที่มีลูกค้าสนใจทั้ง 2 คนก็จะไปหา ผู้หญิงจะแนะนำให้สร้างบ้านผ่านบริษัทเพราะน่าเชื่อถือกว่าจ้างช่างเอง แนะนำผู้ชายว่าเขาเป็นตำรวจเขามีบริษัทรับสร้างบ้าน โดยเอาหน้าที่การงานข้าราชการตำรวจมาอ้าง สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งเขาทั้ง 2 คนก็ยังหาทำแบบนี้กับแฟนเขาที่เป็นตำรวจในอุดรธานี ตนได้พูดคุยกับผู้เสียหายทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เงินคงไม่ได้คืน แต่อยากให้คนพวกนี้หยุดการกระทำแบบนี้และอยากให้ชดใช้กรรมที่ก่อไว้
ตลอดเวลาที่คลุกคลีกับเขากว่า 4 เดือน เขาจะคุยเรื่องกฎหมายกันว่าหากเราได้เงินก้อนนี้มา เราจะต้องสร้างหลังคาให้เขาไหมหรือว่าจะต้องสร้างแค่โครงสร้าง ซึ่งผู้ชายที่เป็นตำรวจเขาก็แนะนำว่าต้องทำถึงขั้นตอนนี้ หากเบิกก่อนแล้วเอาเงินหนีไปเลยเรื่องนี้จะกลายเป็นคดีอาญา เราจะต้องมีการสร้างฐานหรือโครงสร้างบ้านหากถูกฟ้องก็จะเข้าเป็นคดีแพ่ง
“ฝากถึงคนที่จ้างบริษัทในการก่อสร้างบ้านก็ขอให้ตรวจสอบชื่อบริษัทก่อน ขอให้เข้าไปเช็กว่าบริษัทนี้มีคดีมาก่อนไหม “หากอยากรู้ว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้ชื่อบริษัทอะไร ชื่ออะไร หน้าตาเป็นยังไง สามารถติดต่อมาได้ที่ “Prapatpong Suriye” ล่าสุดตอนนี้พวกนี้เดินสายหาเหยื่อบริเวณภาคเหนือและภาคกลางเนื่องจากที่ภาคอีสานหาเหยื่อเพิ่มไม่ได้แล้วเพราะผู้เสียหายเยอะมาก ถูกประจานไปทั่วแล้ว” นายประพันธ์กล่าวย้ำ
