ศูนย์ข่าวขอนแก่น- “อ.ลิ้งค์”โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโต้สื่อและกลุ่มคนที่กล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ ปั้นตัวเองเป็นเจ้าพ่อเหรียญสายมูหลวงปู่ศิลา เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจสีเทา ซัดตนทำมาหากินสุจริตมีทั้งล้มมีทั้งสำเร็จเหมือนคนทั่วไป แต่มีเงินมีทรัพย์ก็ตอนขายวัตถุมงคลหลวงปู่ศิลาและนำเงินไปต่อยอดทำร้านอาหาร-โรงแรม มีระบบบัญชีตรวจสอบได้ ประกาศค่ำวันนี้จะไลฟ์แจงถูกประเด็นอีกครั้งผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
จากกรณีประเด็นร้อน เพจดังบัญชีหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า....ความรวยของวัยรุ่นสร้างตัว อ.ลิ้งค์ ณ กาฬสินธุ์ ที่บอกว่าซี้กับหนุ่มกรรชัย ที่มีบ้านใหญ่เบิ้มจนคนในซอยนึกว่าพระราชวังปแวไซน์! รถหรูจอดเรียงเหมือนงานมอเตอร์โชว์ ตำนาน อ.ลิ้งค์ แห่งกาฬสินธุ์: จากติวเตอร์ สู่เจ้าของวังปแวไซน์”
ก่อนจะมาเป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่กว่าศาลากลางจังหวัด อ.ลิ้งค์เคยเป็นติวเตอร์(ที่ปิดกิจการไปอย่างเงียบๆ) ต่อด้วยค้าไหมไทย (ที่ขายดีเฉพาะวันเปิดร้าน), ลองขายควายงาม ขายน้ำพริก ปั้นเหรียญ ปั้นภาพ ปั้นฝัน และสุดท้ายปั้นตัวเองข้างหลวงปู่ศิลา กลายเป็นเจ้าพ่อเหรียญสายมู!
ว่ากันว่า เขาไม่ได้ขอพรจากหลวงปู่ แต่มาขอทำเหรียญ แล้ว เหรียญนี้แหละที่หมุนชีวิตจากศูนย์ถึงซุปตาร์จังหวัด! แต่คนในพื้นที่กระซิบว่า เขาไม่ได้เดินเดี่ยว แต่มีเครือข่ายธุรกิจสีเทาครอบคลุมตั้งแต่ร้านทองยันโรงแรม (ที่พึ่งเทคโอเวอร์มาหมาดๆ)
เงินไม่ได้โอนเข้าชื่อเขา แต่เข้าชื่อญาติบ้าง เมียคนปัจจุบันบ้าง (ที่ตอนนี้กลายเป็นคุณนายโรงแรม)…และทั้งหมดนี้ พึ่งจะ ‘พุ่ง’ รวยขึ้นหลังยุคโควิด ซึ่งหลายคนแค่ประคองตัว แต่เขากับรวยแบบไม่มีที่มาที่ไป
ทันทีที่โพสต์ถูกแชร์ออกไปมีการแสดงความเห็นหลากหลาย เนื่องจากตัว อ.ลิ้งค์ หรือนายชนะวุธ อุทโท เป็นศิษย์ก้นกุฏิข้างกายของหลวงปู่มหาศิลา เกจิชื่อดังภาคอีสานที่กำลังเป็นที่เลื่อมใสอย่างมากในปัจจุบันในกลุ่มญาติโยมสายมู
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ อ.ลิ้งค์ ได้โพสต์ระบายความในใจและเป็นการชี้แจงประเด็นที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นทางการ โดย อ.ลิ้งค์ระบุว่า....ผมทำใจแล้วล่ะ ว่ายังไงก็โดนหางเลขมาแน่ๆ ระบบเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา สื่อก็มีสิทธิ์ที่จะตั้งข้อสงสัย....แต่ในความเป็นจริง ผมเองประกอบธุรกิจมาหลายอย่าง ทั้งเจ๊งและทั้งประสบความสำเร็จ จนเป็นที่น่าจับตามองได้ว่า ผมทำสีเทารึป่าว ฟอกเงินรึป่าว กล่าวหาต่างๆนานา
จะเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ก็ลุ่มๆดอนๆเหมือนทุกคนนั่นแหละครับ แต่เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจ(ขายวัตถุมงคล) ถึงคราวเฟื่องฟูอย่างที่เห็นและไม่ได้เกิดกับผมคนเดียว พี่น้องวงการพระฟื้นกันทั้งหมด ผมก็เพิ่งได้ตรงนี้แหละ ในทางการบัญชี ซึ่งผมทำระบบ หจก.และ บริษัทมาตั้งแต่ปี 63-64 การสะสมกำไรในบริษัท มันมีผลต่อภาษี หากไม่มีค่าใช้จ่ายหรือลงทุนต่อ มันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ผมก็เลือกลงทุนกับอสังหา(ซึ่งเป็นชื่อบริษัททั้งหมด) และ ร้านอาหารที่ผมถนัด ทำไมผมต้องฟอกเงิน จะไปเอาไหนมาฟอก แล้วฟอกทำไม
อ.ลิ้งค์ระบุต่อว่า ตนยินดีให้ตรวจสอบ ยินดีให้ข้อมูล แล้วอย่ากล่าวหาเอาเรื่องสกปรกมาใส่ตนอีกเลย เรื่องการเมืองท้องถิ่นผมเลิกยุ่งแล้ว เลิกกลั่นแกล้งกันสักที
ประเด็นที่ 1 ฉันไปบอกตอนไหนว่าสนิทพี่หนุ่ม ฉันบอกว่าเคยคุยกัน ฉันก็เคยจริงๆ คราวกรณีหลวงปู่แสง พี่หนุ่มแกก็โทรมาเอง ฉันก็ยังมีเบอร์จนทุกวันนี้
ประเด็นที่ 2 ว่ากุทำธุรกิจสีเทา ก็มาตรวจสอบฉันสิ ฉันมั่นใจว่าฉันไม่เคยเกี่ยวข้อง พร้อมให้ข้อมูล พร้อมให้ตรวจสอบ เปิดหน้าชนตลอดเวลา
ประเด็นที่ 3 ว่าร่ำรวยผิดปกติ บอกเลยว่าใช่ เพราะถ้าปกติ มันต้องรวยกว่านี้ ฉันทำงาน ทำธุรกิจ สู้ล้มสู้ตายมา ด้วยความสุจริต สร้างพระ ก็ไม่ใช่แค่ฉันที่สร้าง มันก็สร้างกันทั่วบ้านทั่วเมืองแหละ จะไม่ให้เขามีเงินกันเลยรึไง
ประเด็นที่ 4 ใช้บัญชีเมีย บัญชีญาติรับเงินสีเทา ก็มาตรวจดู เมียฉันก็มีธุรกิจของนาง นางก็เข้าระบบภาษีเหมือนกัน สรรพากรเขาตรวจหมดแหละ เขาไม่ได้โง่
ประเด็นที่ 5 โรงแรม และ ที่ดิน เป็นชื่อบริษัทหมด นำผลกำไรมาซื้อเป็นการลงทุนต่อยอดในธุรกิจ ซึ่งฉันเองก็เสียภาษีอ่วมอยู่เหมือนกัน การขายของทุกบาท เข้า บช.บริษัททั้งหมด
“วอนสื่อต่างๆ ช่วยให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย คนเรามันจะไม่มีวันหาเงินสร้างอาชีพให้มั่นคงกันไม่ได้เลยหรอ มันต้องจนดักดานตลอดเวลาหรอถึงจะถูกใจคน ผมมั่นใจเหลือเกินว่าที่เขากล่าวหามา ผมพร้อมเปิดข้อมูล และพร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองทางกฎหมายที่ได้รับผลกระทบจากสื่อที่กล่าวหา นาทีนี้ใครโดดมาปกป้องหลวงพ่อโดนทุกคน”อ.ลิ้ค์หรือนายชนะวุทกล่าว