มหาสารคาม - “พระอาจารย์สุริยันต์” ท้าให้ตรวจสอบได้เต็มที่หลังเพจดังโพสต์วัดป่าวังน้ำเย็นเป็นแหล่งฟอกเงินเว็บพนันของนักการเมือง “กลุ่มวัยรุ่นสร้างตัว” แห่งเมืองน้ำดำ เผยเป็นไปไม่ได้ที่คนบาปจะทำบุญ กระแสข่าวที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อญาติโยมที่มาทำบุญ
กรณีเพจ CSI LA โพสต์ข้อความ...ไหนๆ กองปราบฯ ก็จัดการวัดไร่ขิงแล้ว ขอฝากอีกวัดที่น่าสงสัย: วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม วัดนี้ถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงินจากเว็บพนันของนักการเมืองกลุ่ม “วัยรุ่นสร้างตัว” แห่งกาฬสินธุ์ รองเจ้าอาวาสหนุ่มเองก็มีข่าวฉาว เปย์ไม่อั้นให้สีกา มีคลิป-ภาพหลุดลงโซเชียลตั้งแต่ปีที่แล้ว แบบนี้ใช่วัด…หรือเป็นที่ซักผ้าของเงินผิดกฎหมาย? ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างจริงจัง อย่าหยุดแค่เป้าหมายเล็กๆ แล้วปล่อยตัวการใหญ่ลอยนวล โดยหลังจากที่มีโพสต์ดังกล่าวออกมา ต่างก็มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม พบว่าบรรยากาศที่วัดยังคงมีเหล่าพุทธศาสนิกชนเดินทางมาทำบุญตามปกติ ญาติธรรมที่มาทำบุญต่างก็บอกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน เงินที่มาบริจาค วัดก็คงไม่รู้ว่ามาจากไหน คนที่มาทำบุญ ยังไงก็มาทำบุญเหมือนเดิม
ด้าน พระราชวชิรปัญญาภรณ์ หรือพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปญฺโญ ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม หรือวัดป่าวังน้ำเย็น กล่าวว่า จากข่าวที่บอกว่าวัดเป็นแหล่งฟอกเงิน มีเงินเป็นพันล้าน หลวงพ่อมองว่าคนบาปที่ไหนจะมาทำบุญ มันไม่มีหรอก ใจยังทำบาป จะมาทำบุญทำไม เป็นไปไม่ได้ คนที่มีศรัทธา เขาก็มาบริจาค คนไม่ศรัทธา เขาก็ไม่มา แต่หลวงพ่อว่าที่ไปลงในนั้นในนี้ อย่างนั้นอย่างนี้ หลวงพ่อว่าคนบาปไม่น่าจะทำบุญ ตามความคิดหลวงพ่อ เพราะฉะนั้น เราอย่าดูให้มันเสียสายหูสายตา พวกอย่างนั้น เหมือนเราดูอึดูฉี่ ดูของสกปรก ไปหาดูทองคำ ดูสิ่งที่มันดีๆ ดูธรรมะ ดูความดีที่สร้างดีกว่า อย่าไปดูให้มันเสียสายตา
พระอาจารย์สุริยันต์บอกอีกว่า จากข่าวที่ออกมาไม่มีผลกระทบอะไรต่อวัด เพราะคนที่มาก็มาเหมือนเดิม คนเราต่างจิตต่างใจ เราจะบอกทุกคนไม่ได้ ให้เขาพิจารณาเอง หลวงพ่อพูดเสมอว่าความดีไม่ทิ้งคนดี ถ้าวัดไม่มีความดี วัดก็จะไม่ได้มาถึงตรงนี้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น อย่าไปให้ค่า ไม่มีประโยชน์ เพราะบางคนก็จ้องที่จะทำลาย หูเรา ตาเรา ให้ฟังให้มองแต่สิ่งดีๆ
ที่ผ่านมาทางวัดก็ได้นำเงินจากญาติโยมที่มาร่วมบริจาค จัดซื้อรถพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดมหาสารคาม ก็เป็นเงินที่ญาติโยมเอามาทำบุญ ก็เลยมีเงินไปจัดซื้อจัดหาซื้อรถพยาบาลมามอบให้ มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หลวงพ่อก็นั่งรับแขกตลอด ญาติโยมมาหา นำปัจจัยมาถวาย จะมาบอกว่าวัดเป็นแหล่งฟอกเงิน มันไม่ใช่ มันไม่มีหรอก ส่วนตัวหลวงพ่อคิดว่าคนทำบาป มันไม่คิดหรอกว่าจะมาทำบุญ เอาหลักความเป็นจริงก่อนอันดับแรก ถ้าเป็นคนใจบุญ ก็จะไม่ทำบาปตั้งแต่แรก
อยากให้แยกแยะ ให้พิจารณาเอง สิ่งที่มันเกิดขึ้น หลวงพ่อว่าถือว่าอย่าไปดู มันเป็นสิ่งอุจาดตา (เป็นขี้เป็นเยี่ยว) ให้ดูแต่ความดี คนดีไม่ทิ้งความดี ความดีไม่ทิ้งคนดี ไม่มีวัดไหนหรอกที่จะเอาตัวเองไปพัวพันกับสิ่งไม่ดี ที่เป็นข่าวออกมา ก็ถือว่าเป็นกรรมของเขา หรือว่าเขาจะถูกหรือจะผิด มันก็ยังไม่มีใครตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่าเพิ่งไปด่วนสรุป เราเป็นชาวพุทธ เราต้องเคารพในพระพุทธศาสนา เคารพในความเป็นจริง การใส่ร้าย ใส่ความจะพูดยังไงก็ได้ พูดให้คนชั่วก็ได้ พูดให้คนดีก็ได้ ปากของคน ความคิดของคน คิดให้คนเป็นพระอรหันต์ก็ได้ คิดให้พระชั่วก็ได้ นี่ก็คือความคิด เราไปห้ามความคิดแต่ละบุคคลไม่ได้
“ทุกวันนี้เป็นโลกโทรศัพท์ (โลกโซเชียล) อยากกด อยากด่า อยากพิมพ์อะไรก็ทำได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปให้ค่าให้คุณ เรามีหน้าที่ทำความดี ก็ทำไป ถ้าไม่ทำกับวัด ก็ทำกับโรงเรียน โรงพยาบาล ก็เป็นความดีส่งผลอนุเคราะห์ไปสู่คนทุกข์ยากลำบาก” พระอาจารย์สุริยันต์กล่าว และว่า
หากอยากที่จะเข้ามาตรวจสอบวัด ก็สามารถมาได้ พร้อมให้ตรวจสอบ แต่ว่าอยากให้มาใช้หนี้ช่วยกันด้วย ถามว่ามีหนี้อะไร เหมือนบ้านเราหลังคารั่ว ก็ไม่มีใครมารู้กับเราหรอก ใครอยากมาก็มา หลวงพ่อก็นั่งอยู่วัด กรรมการวัดก็มีอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน นักข่าวมาก็จะนั่งคุยอยู่กับนักข่าวตรงนี้ ญาติโยมมาก็มานั่งคุยกับญาติโยมอยู่
สิ่งที่เกิดขึ้น ก็ดู ก็ฟัง ความจริงคือความจริง ไม่มีใครหนีความจริงไปได้ ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดก็ไม่มิด อยากให้ทุกคนทำความดี ความดีก็จะรักษาเรา มีแค่นั้น