อุดรธานี - ผอ.ป.ป.ช.อุดรธานีพร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริตฯ เข้าพบนายทหารใหญ่ของกองบิน
23 รับฟังข้อมูลนายทหารระดับบังคับกองบินใช้ตำแหน่งหน้าที่บังคับพลทหารเข้ากรุงขับแกร็บหาเงินส่งรายเดือน ด้านรองผู้บังคับการกองบิน 23 เผยผลสอบน่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า หากผิดจริงเจอโทษวินัยและอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องรับรองกองบิน 23 นายเทวฤทธิ์ ผกาแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)สำนักงานอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริตและงานสืบสวนคดีทุจริต ได้เข้าพบนายทหารระดับบังคับการกองบิน เพื่อบูรณาการความร่วมมือ รับฟังข้อมูลรายละเอียด ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีปัญหารองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ถูกกล่าวหาว่าบังคับใช้ทหารกองประจำการเข้ากรุงเทพฯทำงานขับรถรับส่งผู้โดยสาร (Grab car) เพื่อหารายได้หาประโยชน์ส่วนตน
นาวาอากาศเอก สุโขทัย สมศรีใส รองผู้บังคับการกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ทางกองบิน 23 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและท่านผู้บัญชาการทหารอากาศ ก็ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว โดยได้มีคำสั่งให้ย้ายรองผู้บังคับกองพันนายที่ถูกกล่าวหาออกจากตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินการตามกระบวนการตรวจสอบ ว่าดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใสและยุติธรรม ตลอดจนป้องกันไม่ให้ใช้อิทธิพล เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในกระบวนการการสอบสวนข้อเท็จจริง
ในส่วนของกองบิน 23 นาวาอากาศเอก นทัย เมืองมณี ผู้บังคับการกองบิน 23 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบด้าน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยยึดหลักกฎหมายและระเบียบวินัยทหาร อย่างเคร่งครัด
นาวาอากาศเอก สุโขทัย กล่าวว่า หากผลการสอบสวนของคณะกรรมการพบว่ามีการกระทำผิดจริง กองทัพอากาศก็จะดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยและดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีการปกป้องหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทุกกรณี ซึ่งจะเร่งดำเนินการตามกระบวนการการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้แล้วเสร็จและทราบผลภายในสัปดาห์หน้า
ด้านนายเทวฤทธิ์ ผกาแก้ว ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดอุดรธานีระบุว่า ในส่วนของ ป.ป.ช.อุดรธานีเอง ก็ได้เน้นย้ำกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในสังคม ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดอุดรธานี จะได้ติดตามผลการดำเนินการ มานำเสนอให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบข้อเท็จจริง
