xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)อดีตเมียพลทหารขับแกร็บเผยเลิกกันเพราะผัวขอยืมเงิน300เอาไปปิดยอดส่งนาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี-อดีตเมียพลทหารถูกนายสั่งขับแกร็บหาเงินเผยปมเหตุที่เลิกกันได้เดือนกว่า เพราะเงิน 300 บาท ที่อดีตผัวอ้างขอยืมไปปิดยอดส่งนาย น้อยใจทำไมไม่พูดความจริงให้หมด ด้านพ่อพลทหารบอกรู้สึกหดหู่ที่ลูกชายไปเป็นทหารเกณฑ์แล้วต้องขับแกร็บหาเงินให้นาย เข้าใจผิดมาตลอดลูกชายสุขสบายเพราะไปรับใช้นาย แต่กลับถูกกดขี่ ตอนนี้ก็อยากให้ลูกชายเดินทางกลับ


จากกรณีข่าวฉาวโฉ่ในแวดวงทหารอากาศ โดยมีนายทหารระดับรองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ใช้ตำแหน่งหน้าที่บังคับให้ทหารเกณฑ์ในปกครองเดินทางไปขับแกร็บคาร์รับจ้างในกรุงเทพฯ เพื่อหารายได้ส่งให้ตนเอง พร้อมกำหนดเป้าให้มีรายได้ 3,000 บาท/วัน ก่อนหักแบ่งรายได้ให้ทหารเกณฑ์ผู้โชคร้ายรายนี้ 10 % ทหารเกณฑ์รายนี้ไม่สามารถทนถูกกดขี่ได้จึงเข้าร้องนักข่าวและเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือตามที่สื่อนำเสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุดบ่ายวันนี้ (15พ.ค.) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังภูมิลำเนาบ้านของพลทหารรายดังกล่าวอีกครั้ง โดยพบกับนายคำปุ่น พ่อของพลทหารยังคงเฝ้ารอข่าวและการติดต่อกลับจากลูกชายอย่างใจจดจ่อ สอบถามเบื้องต้นทราบว่าหลังเป็นข่าวยังไม่มีหน่วยงานใดมาหา ส่วนลูกชายก็ยังไม่สามารถถติดต่อได้

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้แจ้งกับพ่อของพลทหารว่าตอนนี้ลูกชายปลอดภัยดี อยู่ในความดูแลของทีมช่วยเหลือและกำลังเดินทางไปพบผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศไทยเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยพ่อก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมาทันทีที่เมื่อรู้ข่าวลูกชายปลอดภัย แต่ยังคงกังวล เกรงว่าหากลูกชายกลับมาอุดรธานีจะถูกตัดตอน


อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวกับพ่อของพลทหารกำลังนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ คุณ โป้ง พงศพัศ ทีมช่วยเหลือได้โทรศัพท์เข้ามาหาทีมข่าวโดยบอกว่าลูกชายและรองเสนาธิการ ทอ.อยากพูดคุยด้วย จากนั้นพ่อลูกก็ได้คุยกัน

ด้าน น.อ.วุฒิกร สุวารี รองเสนาธิการหน่วยบัญชาการอาการศโยธิน กล่าวกับนายคำปุ่นว่า...พ่อไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ผมได้พูดคุยกับน้องเบสแล้ว น้องเบสตอนนี้รู้สึกกังวลว่าผู้บังคับบัญชาของเขาจะยังไง เรื่องที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชากองบินเขาไม่รู้ไม่รับทราบ แต่สิ่งที่ทำ มันไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็จะว่ากันไปตามกฎระเบียบของทางราชการ ส่วนเรื่องที่พ่อกังวลว่าลูกชายจะไม่ปลอดภัยทางผมรับประกันความปลอดภัยของลูกชายคุณพ่อ โดยคุณพ่อมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มและดีใจมากขึ้น
หลังรับประทานอาหารแล้วเสร็จ ทีมข่าวกับนายคำปุ่น ได้เดินทางไปเยี่ยมน้องอะตอม ลูกชายพลทหารเบส วัย 5 เดือน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยพบกับนางตุ๊ก อายุ 50 ปี แม่ยายของพลทหารเบส กำลังนั่งเลี้ยงหลานที่เป็นลูกชายของพลทหารเบส

โดยนางตุ๊ก บอกว่า ลูกเขยหลังไปทหารก็ไม่ค่อยติดต่อกลับมาเลย เท่าที่จำได้เขาเคยขับรถคันสีฟ้ามาจอดที่บ้าน ลูกเขยไม่ค่อยพูดอะไรให้ฟังมาก เท่าที่รู้ลูกเขยไปเป็นทหารก็ไม่ค่อยมีเงินใช้และไม่เคยส่งเงินกลับมาช่วยเลี้ยงดู และเขาก็เลิกกับลูกสาวของตนไปเดือนก่อน ส่วนสาเหตุเพราะลูกกับกับลูกเขยมีปัญหาเรื่องเงิน


ขณะที่นางสาวเอ้ แม่ของอะตอมลูกพลทหารเบส เปิดเผยว่า ตนกับเบสรู้จักกันมาได้ 1 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คนชื่อน้องอะตอม ตอนนี้น้องอายุได้ 5 เดือน จากนั้นเบสได้สมัครไปเป็นทหารอยู่ประจำที่กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ตอนเป็นทหารแต่ละเดือนเขาก็ส่งเงินมาช่วยเลี้ยงลูกบ้าง ก่อนเราเลิกกัน เบสบอกว่าทางต้นสังกัดจะจำหน่ายเบสออกมาทำงานข้างนอก ส่วนเงินเดือนพลทหารก็จะเอาเข้าบัญชีรอง ตอนนั้นตนก็ไม่ได้ติดขัดอะไร โดยเบสยังบอกว่าจะไปทำงานขับรถแกร็บ และขับแกร็บได้ประมาณ 2 เดือนก็ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ

ซึ่งตอนที่แฟนขับรถนั้นตนก็รู้ว่าทำงานขับรถ Grab ซึ่งแฟนก็ไม่ได้เล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย สาเหตุที่เราเลิกกันก็เพราะว่าเบสเขาไม่พูดความจริง ตอนนั้นเขามาขอยืมเงิน 300 บาท อ้างว่านายจะขอเคลียร์เงิน ขอยืมเงินหน่อย 300 บาท ซึ่งเราก็ทะเลาะกัน แค่เงิน 300 บาทจนเราเลิกกัน ซึ่งตนก็โอนให้ พอโดนทวงถาม เงิน 300 บาท กับเบสจากนั้นเบสก็ โอนเงินคืนกลับมาให้ แล้วก็บอกเลิกกัน ตอนนี้ตนก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่เบสยืมเงิน 300 ไปเพราะอะไร ทำไมเบสก็ยังไม่พูดความจริง เรื่องที่ไปขับรถแกร็ปแล้วเอาเงินส่งให้นายนั้นตนก็ไม่รู้ ว่าจะต้องเอารายได้ส่งให้นายทั้งหมด เพราะว่าหลังจากเราเลิกกันแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย


ด้านนายคำปุ่นกล่าวเสริมอีกว่า ตอนนี้ส่วนตัวก็รู้สึกหดหู่ที่ลูกชายไปเป็นทหารแล้วต้องมาขับแกร็บ ตอนแรกก็คิดว่าลูกชายคงไปรับใช้นายทำงานที่ดี แต่กลับถูกกดหัวใช้กดขี่ ตนก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ตอนนี้ก็อยากให้ลูกชายเดินทางกลับมาบ้านมาเล่าเรื่องราวอธิบายเหตุผลให้ฟัง ทำไมจะต้องไปขับแกร็บแบบนั้น ที่สำคัญรู้สึกกังวลหากลูกชายออกมาพูดความจริงแล้วจะถูกฆ่าตัดตอน ฝากถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทั้ง ผอ.ทอ. ขอให้กำชับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา อย่าให้ทหารปฏิบัติตนนอกแถว ทหารต้องมีระเบียบ อย่านอกลู่นอกทางทหารควรอยู่ระเบียบวินัย เพราะตนก็เคยเป็นทหารเกณฑ์เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น