เชียงราย - เลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครเชียงราย เมื่อ 11 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่พรรคส้ม "พรรคประชาชน" แพ้แก่ขั้วการเมืองเก่าไปอย่างฉิวเฉียด
พรรคประชาชนส่งนายศราวุธ สุตะวงค์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ที่เป็นลูกหม้อเก่ามาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ ที่ลาออกจากราชการมาลงชิงเก้าอี้กับนายวันชัย จงสุทธนามณี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเชียงรายและนครเชียงรายหลายสมัย ที่เน้นการเมืองท้องถิ่นและไม่สังกัดพรรคการเมืองใดยาวนานแต่ใช้การปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
และผลท้ายที่สุดนายวันชัยก็ชนะไปด้วยคะแนน 17,243 คะแนน พร้อมกวาดเก้าอี้ ส.ท.ไปยกทีม 24 คน ขณะที่นายศราวุธได้ 12,362 คะแนน ห่างกันเกือบ 5,000 คะแนน และพลาดเก้าอี้ ส.ท.ทุกเขต
เขตเทศบาลนครเชียงรายมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 53,482 คน ในครั้งนี้มีผู้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวน 32,457 คน คิดเป็นร้อยละ 60.71
ก่อนการเลือกตั้งนายวันชัย ในนามทีมวันชัย ได้ส่งผู้สมัครลงครบทั้ง 4 เขต ชูโรงความมีประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาในการหาเสียง ขณะเดียวกันก็งัดสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับคนในท้องถิ่นเพราะทำงานร่วมกันมาหลายสิบปีมาสนับสนุน
ส่วนนายศราวุธพยายามชูความคิดใหม่ในการบริหารงานท้องถิ่นและออกแนวตำหนิการบริหารงานที่ผ่านมาว่ายังไม่ดีพอ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาชนโดยแกนนำหลายคน เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน และหลายคนเดินทางไปปราศรัยหาเสียงช่วยหลายครั้ง
นายศราวุธเคยกล่าวก่อนการเลือกตั้งว่าเขามุ่งจะดึงคะแนนเสียงจากผู้ที่ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงรายทุกครั้ง โดยเฉลี่ยครั้งละกว่า 4,000-5,000 คน ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดคะแนนเสียงได้ รวมทั้งแจกแจงนโยบายต่างๆ ที่แปลกใหม่เพื่อดึงดูดให้ผู้คนเปลี่ยนใจมาเลือกคนจากพรรคประชาชน
การคำนวณของนายศราวุธเป็นความจริง เพราะในการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ไม่เลือกผู้สมัครคนใดเลยมากถึง 5,434 คะแนน มากกว่าระยะห่างคะแนนของทั้ง 2 คนที่มี 4,881 คะแนน เพียงแต่ว่าไม่ได้เทไปให้กับพรรคประชาชนตามที่คาดหวังเอาไว้ อันแสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของผู้ที่ Vote No ในเขตเทศบาลนครเชียงรายยังคงเหนียวแน่นและดึงออกมาไม่ได้ เช่นเดียวกับคะแนนนิยมส่วนตัวที่ยาวนานเป็นสิ่งที่ทลายได้ยากเช่นกัน
กระนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของคะแนนเสียงใหม่ๆ เพราะตัวนายศราวุธเองก็เพิ่งเปิดตัวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งล่วงหน้าเพียงไม่กี่เดือน แตกต่างจากนายวันชัยที่อยู่คู่การเมืองท้องถิ่นมาหลายยุคสมัย ผลปรากฏว่านายศราวุธได้คะแนนเหลือล้นขึ้นหลักหมื่นกว่าคะแนน เช่นเดียวกับการเลือกตั้ง ส.ท.ในแต่ละเขตที่ผู้สมัครจากพรรคประชาชนได้คะแนนแบบเป็นกอบเพียงแต่ทิ้งห่างผู้สมัครจากทีมวันชัยบางเขตเป็นหลัก 100-200 คะแนน บางเขตห่างกันเป็นหลักพันคะแนน
การเลือกตั้งนายกและ ส.ท.นครเชียงรายในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าขั้วการเมืองเก่ายังคงเอาตัวรอดในการปรับตัวและมีเวลาทดสอบฝีมือในการบริหารงานไปอีก 4 ปี และหลังจากนั้นยังไม่อาจคาดการณ์กันว่าจะต้องแข่งขันกับคลื่นลูกใหม่อย่างพรรคประชาชนได้อีกหรือไม่
