กาญจนบุรี - ประธาน กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำทีมลงพื้นที่ประชุมแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดิน จ.กาญจนบุรี ชี้ พ.ร.ฎ.2481 กดศักยภาพจังหวัดนานนับสิบปี ด้าน ส.ส.พนม ยืนยันเดินหน้าผลักดันคืนพื้นที่ให้ประชาชนเข้าถึงที่ดินทำกิน
บ่ายวันนี้( 13 พ.ค.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ตาม พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน พ.ศ.2481 ซึ่งประกาศใช้เพื่อราชการทหารในยุคกระทรวงกลาโหมครอบครองพื้นที่กว่า 3.5 ล้านไร่ ที่ห้องประชุมบุษราคัม องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเข้มข้น มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ กองทัพ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งนายวิโรจน์ได้เปิดโอกาสให้สอบถามและแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง
นายวิโรจน์ เผยหลังจากการประชุมหารือ ว่า พระราชกฤษฎีกา 2481 เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมดที่กดศักยภาพของจังหวัดกาญจนบุรีไว้ ทั้งที่วันนี้บริบทความมั่นคงได้เปลี่ยนไป อีกทั้งโรงงานกระดาษต้นเหตุในการประกาศใช้พื้นที่ก็ได้ปิดกิจการไปนานแล้ว แต่พื้นที่ดังกล่าวยังถูกครอบครองโดยทหาร ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์หรือพัฒนาเศรษฐกิจได้
“หากไม่สามารถคลี่คลาย พ.ร.ฎ.2481 ได้ ศักยภาพของจังหวัดนี้ก็เหมือนถูกขัง ทั้งเรื่องที่ดินทำกิน การพัฒนาเศรษฐกิจ และการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ เช่น ทางหลวงพิเศษ M81 ที่กำลังจะเปิดใช้”
ด้านนายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.กาญจนบุรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร ระบุว่า จะเร่งลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลจำนวนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ พ.ร.ฎ.2481 และรวบรวมข้อมูลเสนอให้กองทัพบกทบทวนการคืนพื้นที่บางส่วนให้กรมธนารักษ์ เพื่อนำมาใช้ให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิที่ดินและแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อรองรับสภาพเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าถึงของเส้นทางโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (M 81)สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในเร็วๆนี้นั้น จะเร่งผลักดันและแก้ไขปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว
“เชื่อว่าผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน หากพื้นที่ใดที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จริง ก็ขอให้คืนกลับมาให้ชาวบ้านใช้ทำกินตามกฎหมาย ”
ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมาธิการจะขอใช้พื้นที่การประชุม อบจ.กาญจนบุรี อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการประชุมร่วมกับหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ พร้อมตั้งเป้าผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
