เชียงใหม่ - กำนันหนองหอยพาลูกบ้านชาวเชียงใหม่กว่าครึ่งร้อยขึ้นโรงพักแม่ปิงแจ้งความร้องทุกข์ หลังเลือกตั้งถูกโพสต์ดูหมิ่นเหยียดหยาม ระบุข้อความกล่าวหาทั้งซื้อสิทธิขายเสียง-กินหญ้า ฯลฯ ประหนึ่งว่าชาวบ้านเป็นควาย
วันนี้ (13 พ.ค.) นายสุเทพ พงศ์วีรกวิน กำนันตำบลหนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ นำชาวบ้านกว่า 50 คนถือป้ายเขียนข้อความ.."พวกเราชาวหนองหอยไม่ยอม คุณต้องรับผิดชอบการกระทำดูหมิ่นครั้งนี้” ขึ้นโรงพักร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ กรณีมีบุคคลแชร์โพสต์แชร์ข้อความนายทหารระดับนายพล ที่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาก่อน ซึ่งระบุว่า..ต้องให้คนหนองหอยที่ขายเสียงขายสิทธิ ขายตัว ขายศักดิ์ศรี ล้มหายตายจากไปก่อนครับ..ซึ่งมีผู้โพสต์แสดงความเห็นต่อท้ายเข้าข่ายหมิ่นประมาท
โพสต์ดังกล่าวระบุว่า "ทีมเราไม่ได้แพ้ แต่อยู่ในใจคนหนองหอย 726 เสียง เรามีศักดิ์ศรีได้คะแนนมาด้วยความบริสุทธิ์เราก็ดีใจละ คิดเสียว่าคนหนองหอยถอยหลังลงคลอง ไม่ยอมรับในสิ่งใหม่ที่เรามอบให้ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนหนองหอยด้อยพัฒนา น่าจะมีโครงการพัฒนาสมองคนหนองหอย พนักงานเทศบาลหนองหอย เกือบทั้งหมดเทศบาลบอกว่าเสียดายทีมพลังใหม่มากๆ ที่ไม่ได้เข้ามาทำงาน พวกเขาต้องทนอีก 4 ปี แสนทรมาน ที่ผ่านมาทำงานไม่เป็นระบบ มั่วไปหมด เอ็นดูพนักงานหนองหอยจัง".."กินหญ้าทุ่งเดียวกันหมดแหละครับ ตบท้ายด้วยสตรอว์เบอร์รีล้างปาก"
นายสุเทพ กำนันตำบลหนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนออกมาวันนี้ในนามตัวแทนของชาวบ้านหนองหอย เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ออกมาเคลื่อนไหวดูหมิ่นเหยียดหยามชาวตำบลหนองหอยว่ากินหญ้าประหนึ่งว่าเป็นควายนั่นแหละ มันสมองต้องมีการพัฒนาอะไรต่างๆ ดูแล้วมันกระทบประชาชนตำบลหนองหอย ตนในฐานะกำนันตัวแทนผู้ใหญ่บ้านถ้าไม่ทำอะไรเลยถือว่าไม่เข้าข่ายการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ชาวบ้าน
“วันนี้มีคนโทร.มาถามเรื่องนี้ทั้งวัน บางท่านเป็นถึงระดับอธิบดี รองอธิบดี หรืออดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งก็เป็นประชาชนตำบลหนองหอย ทำไมถึงมาดูหมิ่นกันแบบนี้ ชาวบ้านพ่อค้าแม่ขายก็โดนหมดเพราะใช้คำว่าประชาชนตำบลหนองหอย เลือกตั้งผ่านไปแล้วเราต้องรู้จักแพ้รู้จักชนะ แต่นี่เอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือ ไม่เลือกเขาแล้วโง่เหมือนควายอย่างนั้นหรือ”
ส่วนในเรื่องของคดี เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้นจะรวบรวมหลักฐานมาอีกครั้งเพื่อทำตามกระบวนการ โดยจะดำเนินคดีต่อผู้โพสต์ 2 ราย คือที่โพสต์ข้อความทำร้ายจิตใจชาวบ้านอย่างรุนแรงเป็นหลัก