พิจิตร - ป.ป.ช.พิจิตร-ป.ป.ท.เขต 6 รุมตรวจกรมน้ำซื้อเรือดูดโคลนสะเทินน้ำสะเทินบกลำละ 57 ล้าน รวม 8 ลำ เบ็ดเสร็จ 464 ล้าน กระจายส่ง สนง.ส่วนภูมิภาค 3-5-7-9 จุดละ 2 ลำ สุดท้ายพบจอดทิ้ง มจร.พิจิตรมานานปี ส่อใช้งานไม่คุ้มค่า
นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.พิจิตร ร่วมกับนายณรงวิทย์ สุวรรณสิทธิ์ ผอ.ปปท.เขต 6 ที่มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการ ป.ป.ท.เขต 6 นำโดย พ.ต.ท.ธนาชัย เวศอุไร ผอ.กลุ่มงานปราปปราม 2, นายนนทพัฒน์ สิงห์ประยูร ผอ.กลุ่มงานป้องกันการทุจริตในภาครัฐ และ นางสาวชุติมน แปงคำเรือง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ลงพื้นที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พิจิตร (มจร.พิจิตร) อ.เมือง จ.พิจิตร กลางสัปดาห์นี้
ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เครื่องจักรเรือดูดโคลนสะเทินน้ำสะเทินบกของกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถูกจอดทิ้งไว้ที่ มจร.พิจิตร มานานปี-ไม่ได้ใช้งานและอาจไม่เกิดความคุ้มค่ากับเงินงบประมาณที่มาจากเงินภาษีของประชาชน
เบื้องต้นพบว่ากรมทรัพยากรน้ำได้จัดซื้อเรือดูดโคลนสะเทินน้ำสะเทินบก จำนวน 8 ลำ งบประมาณ 464 ล้านบาท จากนั้นได้กระจายส่งมอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3, 5, 7 และ 9 หน่วยงานละ 2 ลำ ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับมอบจำนวน 2 ลำ ราคาประมาณลำละ 57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564
เพื่อนำไปใช้งานดำเนินโครงการปรับปรุงฟื้นฟู-เพิ่มประสิทธิภาพเก็บกักน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค “หนองหันตรา” บ้านบุ่ง หมู่ที่ 2 ต.บ้านบุ่ง อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มจร.พิจิตร (งานดำเนินการเอง) งบประมาณปี 2565 งบก่อสร้างจำนวน 7.4 ล้านบาท เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565
อย่างไรก็ตาม พื้นที่หนองหันตราดังกล่าวไม่ใช่ดินโคลน ดินทราย แต่เป็นดินดานที่มีสภาพแข็งทำให้เรือสะเทินน้ำสะเทินบกของกรมทรัพยากรน้ำไม่สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ การพัฒนาแหล่งน้ำหนองหันตรา (มจร.พิจิตร) จึงได้ใช้รถแบ็กโฮทำงานเสียมากกว่า ซึ่งโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หลังจากนั้นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกทั้ง 2 ลำ ที่มีมูลค่า 114 ล้านบาท จึงได้จอดตากแดดตากฝนทิ้งไว้ยาวนานกว่า 2 ปี
นายธนเดช แก้วสุวิบูลย์ รักษาการ ผอ.ส่วนเครื่องกล สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายนิมิตร โคตรบัว ผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 ให้เป็นผู้ชี้แจงในการตรวจสอบครั้งนี้ว่า หลังเสร็จสิ้นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำหนองหันตรา (มจร.พิจิตร) งบปี 65/66 จากนั้นก็ไม่มีงบทำงาน เครื่องจักรจึงได้จอดทิ้งไว้ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ไปดูแลตรวจเช็กเครื่องจักรเดือนละครั้ง
โอกาสนี้ ได้ทำการติดเครื่องทดสอบเครื่องจักรให้ดูก็ปรากฏว่ายังใช้งานได้ดี ขณะที่ ป.ป.ช.พิจิตร-ป.ป.ท.เขต 6 ได้ตรวจจำนวนชั่วโมงการใช้งานของเครื่องจักรทั้ง 2 ลำดังกล่าวมีการใช้งานจำนวนน้อยมาก
นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้พิจารณาข้อมูลงบประมาณจัดซื้อกับชั่วโมงของการใช้งานแล้วอาจไม่คุ้มค่าและไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง ประกอบกับหากมีการขนย้ายเครื่องจักรไปยังพื้นที่ใหม่ต้องใช้งบประมาณในการขนย้ายครั้งละเป็นล้าน ซึ่งสูงมากต้องรองบประมาณจากกรมทรัพยากรน้ำจัดสรรให้
แต่เบื้องต้นคณะตรวจสอบได้เน้นย้ำให้หน่วยงานดำเนินการบริหารจัดการใช้ประโยชน์จากเครื่องจักร โดยประสานงานจัดทำแผนงานโครงการบูรณาการใช้ประโยชน์ร่วมกับหน่วยงานอื่นให้เกิดความคุ้มค่าและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งได้ขอเอกสารพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ส่วนตามที่มีข้อมูลว่ากรมทรัพยากรน้ำได้จัดซื้อเรือสะเทินน้ำสะเทินบกเพื่อใช้ดูดโคลนดูดทราย 8 ลำ มูลค่า 462 ล้านบาท ให้กับพื้นที่อื่นๆ ด้วยนั้น ก็จะประสาน สนง.ป.ป.ช.ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคให้ช่วยตรวจสอบขยายผลว่าเครื่องจักรดังกล่าวมีการใช้งานคุ้มค่าหรือไม่ต่อไปด้วย
ขณะที่นายนิมิตร โคตรบัว ผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 9 ก็ได้ส่งเอกสารชี้แจงมาให้ผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเดือนพฤษภาคม 68 นี้มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตามโครงการทุ่งหนองฝา จ.พิษณุโลก ก็จะย้ายเรือสะเทินน้ำสะเทินบกทั้ง 2 ลำที่อยู่ใน มจร.พิจิตร มาใช้ประโยชน์ต่อไป