กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ จัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูหน่วยงานต้นแบบลดจุดความร้อนทั่วประเทศ สะท้อนผลสำเร็จของมาตรการเชิงรุก ลดฮอตสปอร์ตปี 68 ลงได้กว่า 40.51% ดันพื้นที่ป่าอนุรักษ์บางแห่งลดลงทะลุ 80% ผลจากการบูรณาการทุกภาคส่วนตามนโยบาย “เร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่”
วันนี้( 7 พ.ค.) ที่ศูนย์สาธิตการควบคุมไฟป่า ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานที่สามารถลดจุดความร้อน (Hotspot) ในปี 2568 ได้อย่างโดดเด่น รวมถึงหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการป้องกันไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้มาตรการเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ภายในงานมี นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง), ผศ.ดร.พระครูวิสุทธานันทคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาช่องพราน, นายศริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์, นายศิวะปกรณ์ วิเชียรเพริศ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี, เจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่ภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนจำนวนมาก
พิธีมอบรางวัลครั้งนี้ถือเป็นจังหวัดแรกที่มีการจัดขึ้น เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละท่ามกลางความเสี่ยงจากไฟป่า โดยผลการดำเนินงานด้านการลดจุดความร้อนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 6 พฤษภาคม 2568 พบว่าลดลงจากปี 2567 ถึงร้อยละ 40.51 โดยใน 14 กลุ่มป่าเป้าหมาย มีพื้นที่ที่สามารถลดฮอตสปอร์ตได้เกินร้อยละ 80 จำนวนถึง 31 แห่ง และอีก 31 แห่งลดได้เกินร้อยละ 50
เฉพาะพื้นที่ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขาแหลม ไทรโยค ลำคลองงู ทองผาภูมิ เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พบว่ามีการลดลงของจุดความร้อนอย่างมีนัยสำคัญ บางแห่งลดลงถึงมากกว่าร้อยละ 80 ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ของการทำงานแบบบูรณาการอย่างจริงจัง
นายอรรถพล เจริญชันษา กล่าวว่า การจัดพิธีในวันนี้มีเป้าหมายเพื่อแสดงความขอบคุณและยกย่องเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยควันไฟ ความร้อน และความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ป่า โดยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากนโยบาย “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เน้นย้ำให้เกิดความร่วมมือทั้งภาครัฐและประชาชน รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้และการรณรงค์เคาะประตูบ้านเพื่อหยุดยั้งการลักลอบเผา
นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังย้ำว่าจากสภาพอากาศในปีนี้ที่เอื้ออำนวยมากกว่าปีที่ผ่านมา ถือเป็นปัจจัยเสริมความสำเร็จ และมีความหวังว่าในปีถัดไป สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันจะดีขึ้นกว่านี้อีก พร้อมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติของชาติให้ยั่งยืน
