เชียงราย/แขวงบ่อแก้ว - คืบหน้ากองกำลังติดอาวุธบุกถล่มทหารลาวฐานภูผาหม่น ยิงกันสนั่นชายแดนตรงข้ามดอยผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า ล่าสุดเสียงปืนสงบแต่ยังคุมพื้นที่ไม่ได้ 100% พบทหาร สปป.ลาวดับ 2-3 นาย เจ็บอีก 14 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยหวังไม่ยืดเยื้อ
กรณีเกิดการยิงปะทะกันระหว่างทหารของ สปป.ลาว กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายโดยเฉพาะบริเวณฐานภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ชายแดนตรงข้ามดอยผ้าตั้ง-ภูชี้ฟ้า อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 3-4 พ.ค.ที่ผ่านมา จนมีลูกกระสุนปืนขนาด 7.26 มม.ตกใส่หลังคาบ้านชาวบ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น นั้น
ล่าสุด นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดพบว่าไม่มีเสียงปืนดังขึ้นมาจากฝั่ง สปป.ลาวอีก แต่เพื่อความปลอดภัยทางอำเภอจึงได้ประกาศงดทำกิจกรรมชายแดนทุกอย่างจนกว่าจะแน่ชัดว่าสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ทั้งนี้ ในการปะทะที่ผ่านมาไม่ได้มีผลกระทบต่อฝั่งไทยมากนัก มีเพียงแค่กระสุนของอาวุธปืนขนาดเล็กตกลงมาถูกบ้านเรือนประชาชนแต่ไม่มีใครได้รับอันตราย และไม่มีผู้อพยพมาจากฝั่ง สปป.ลาวแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการปะทะที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากเรื่องใด สอบถามไปทางฝั่ง สปป.ลาวแล้วก็ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา
ด้านนายบันเทิง เครือวงศ์ ผู้ประกอบการที่พักบนภูชี้ฟ้า กล่าวว่า กรณีอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ได้ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวบนภูชี้ฟ้าชั่วคราวหลังเกิดเหตุยิงปะทะกันใน สปป.ลาวนั้นยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในพื้นที่แต่ก็ไม่มากนัก เพราะเป็นช่วงหลังสงกรานต์และเข้าสู่ฤดูฝนนักท่องเที่ยวจึงมีน้อยอยู่แล้วดังนั้นจึงไม่ได้กังวล
แต่หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวหรือช่วงปลายปีจะมีผลกระทบมากอย่างแน่นอนเพราะเป็นฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซัน แต่ภูชี้ฟ้าตั้งอยู่บนหน้าผาสูงและห่างจากจุดปะทะจึงไม่น่ามีผลกระทบ กระนั้นก็หวังว่าสถานการณ์จะไม่ยืดเยื้อไปจนถึงช่วงนั้นและกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการปะทะใน สปป.ลาวเกิดขึ้นหลายจุดโดยเฉพาะตรงฐานทหารลาวบนภูผาหม่นซึ่งมีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงและป่าไม้หนาแน่น กองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่มีจำนวนมากกว่าทหารลาวในฐานได้บุกโจมตีครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2568 ก่อนเกิดการปะทะกันอย่างหนักเป็นผลทำให้ทหารลาวเสียชีวิตจำนวน 2-3 นาย บาดเจ็บ 14 นาย จนต้องเสริมกำลังยานยนต์หุ้มเกราะ เฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ เพื่อปราบปรามกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย
อย่างไรก็ตาม การข่าวมีรายงานว่าทางการลาวยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ปะทะได้อย่างเบ็ดเสร็จ รวมทั้งยังไม่มีการระบุชัดว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มกองกำลังฝ่ายใด แต่คาดการณ์กันว่าอาจเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลลาวมายาวนานและค้ายาเสพติดที่สูญเสียผลประโยชน์ แต่เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นลึกเข้าไปใน สปป.ลาว และไม่มีการแถลงการณ์ใดๆ อย่างเป็นทางการทำให้ยังไม่มีความชัดเจน