xs
xsm
sm
md
lg

UNHCR ตามส่องปัญหาผู้หนีภัยฯ ชาวเมียนมาในแม่ฮ่องสอนกว่า 5 หมื่นชีวิต หลัง “ทรัมป์” สั่งหยุดช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ฮ่องสอน - ผู้แทน สนง.ข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ลงพื้นที่ 3 ศูนย์พักพิงฯ แม่ฮ่องสอน ตามส่องปัญหาการช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมากว่า 5.5 หมื่นชีวิต หลัง “ทรัมป์” ตัดงบ/ยุติโครงการดูแลสุขภาพ-การคุ้มครอง


วันนี้ (6 พ.ค.) นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ป้องกันจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับ Ms. Tammi Sharpe ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugee : UNHCR) ประจำประเทศไทย และคณะ ซึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมการดำเนินงานในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่ลามาหลวง บ้านแม่ละอูน อำเภอสบเมย และบ้านในสอย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ในช่วงระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2568

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ร่วมหารือข้อราชการร่วมกับ Ms. Tammi Sharpe ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugee : UNHCR) ประจำประเทศไทย และคณะ เกี่ยวกับสถานการณ์ของพื้นที่พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และการช่วยเหลือของ UNHCR ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้มีการติดตามในด้านการดูแลผู้อพยพในพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่น ในด้านความต้องการขั้นพื้นฐาน ด้านสิทธิมนุษยชน ความต้องการในด้านการเกษตรเพื่อสร้างอาหาร สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในระหว่างที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงฯ ก่อนที่จะได้รับโอกาสเดินทางไปประเทศที่สาม

นอกจากนี้ นางสาวแทมมี่ ชาร์ป ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย และคณะ ยังได้หารือแนวทางการช่วยเหลือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบในอนาคตกว่า 55,746 คน หลังสหรัฐอเมริกายุติการให้ความช่วยเหลือชุดใหม่หยุดสนับสนุนงบประมาณโครงการด้านการดูแลสุขภาพและการคุ้มครองในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านองค์กร International Rescue Committee (IRC) เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อทบทวนนโยบายต่างประเทศ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบฯ โดยปัจจุบันสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ได้ให้การคุ้มครอง ช่วยเหลือ และปกป้องสิทธิของกลุ่มคนดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา นับตั้งแต่ปี 2527 ได้มีการสู้รบระหว่างรัฐบาลพม่ากับชนกลุ่มน้อยบ่อยครั้ง เป็นเหตุให้มีผู้หลบหนีภัยการสู้รบเดินทางเข้ามาในเขตประเทศไทยตามสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลไทยได้อนุญาตให้ผู้อพยพหนีภัยดังกล่าวอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ตามหลักมนุษยธรรม

จนถึงปัจจุบันจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯจำนวน 4 แห่ง ดังนี้
1. พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านใหม่ในสอย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2538 อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านในสอย หมู่ที่ 4 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบอาศัยอยู่รวม 6,663 คน

2. พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่สุริน อำเภอขุนยวม จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2535 อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านห้วยฟาน หมู่ที่ 5 ตำบลขุนยวม อำเภอขุนยวม มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบอาศัยอยู่รวม 1,846 คน

3. พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่ลามาหลวง อำเภอสบเมย จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2538 อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านแม่ลามาหลวง หมู่ที่ 7 ตำบลสบเมย อำเภอสบเมย มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบอาศัยอยู่รวมทั้งสิ้น จำนวน 9,108 คน

4. พื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ บ้านแม่ละอูน อำเภอสบเมย จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2546 อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านแม่ตอละ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบอาศัยอยู่รวมทั้งสิ้นจำนวน 8,075 คน


กำลังโหลดความคิดเห็น