ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อดีตครูโคราชปลูกมะพร้าวน้ำหอม 3 ไร่ขายทำรายได้หลักหมื่นต่อเดือน สร้างชีวิตเกษียณไร้หนี้มีความสุข ไม่ง้อเงินบำนาญ อีกทั้งขยายปลูกฝรั่ง ละมุด กล้วย และเพาะพันธุ์ไม้ผลขายสร้างรายได้เพิ่มอีกทาง พร้อมตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไม้ผลสร้างเครือข่ายสมาชิกแลกเปลี่ยนความรู้ ช่วยกันขายผลิตภัณฑ์ และยกระดับได้มาตรฐาน GMP
สังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินครูอย่างแพร่หลาย แต่มีเรื่องราวของครูเกษียณรายหนึ่งที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมีความสุข น่าชื่นชม และควรยกย่อง เพราะไม่ต้องกังวลกับปัญหาหนี้สิน ไม่ต้องวิ่งหางาน หรือวิตกกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งครูเกษียณรายนี้คือ นายเอกรัตน์ แทนฉิมพลี อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการครู กศน.ที่เลือกกลับไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในบ้านเกิด ที่บ้านกระเซาะราก หมู่ 7 ต.บ่อปลาทอง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ทำการเกษตรและสร้างอาชีพที่มั่นคงจากสิ่งที่ตนเองรัก
นายเอกรัตน์ แทนฉิมพลี เล่าว่า ช่วงก่อนเกษียณประมาณ 3 ปี ตนเริ่มคิดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างไร เพราะถ้ารอให้เกษียณแล้วค่อยเริ่มทำ แรงกายก็อาจไม่ไหว จึงเริ่มมองหาพืชที่ปลูกครั้งเดียวแต่ให้ผลผลิตระยะยาว จึงศึกษาเรื่องมะพร้าวน้ำหอม พบว่าปลูกครั้งเดียวแต่เก็บเกี่ยวได้นานถึง 30-40 ปี จึงเริ่มปลูกบนที่ดินของตนเองประมาณ 3 ไร่ จำนวน 150 ต้น ตั้งใจไว้ว่าพอถึงปีที่ 3-4 หลังเกษียณก็จะเริ่มมีรายได้จากผลผลิต ซึ่งมะพร้าวน้ำหอมดูแลง่าย ไม่ต้องใช้แรงมาก แค่รดน้ำกับใส่ปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 2 ครั้ง เหมาะกับคนสูงอายุอย่างตน
จากนั้นก็ค่อยๆ ขยายเพิ่มขึ้น ตอนนี้ปลูกประมาณ 300 กว่าต้น ในพื้นที่เกือบ 6 ไร่ ตัดผลผลิตทุกๆ 28 วัน ต้นหนึ่งได้ประมาณ 1 ทะลายต่อเดือน มีลูกมะพร้าวประมาณ 10-12 ลูก ขายส่งหน้าสวนได้ลูกละ 12 บาท รายได้ขั้นต่ำเดือนละ 10,000 บาท แต่ถ้าไปออกบูทขายเองในห้างฯ หรือตามงานต่างๆ ก็จะขายได้ลูกละ 25-30 บาท เพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ทำแค่มะพร้าว ยังขยายไปปลูกฝรั่ง ละมุด กล้วย แล้วก็เพาะพันธุ์ไม้ขายด้วย เช่น กิ่งฝรั่ง กิ่งละมุด มะพร้าวพันธุ์ดี สร้างรายได้เสริมได้อีกทาง ต้องคิดเผื่ออนาคต ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป จากสิ่งที่ตนเองชอบและสนใจจริงๆ เพราะถ้าชอบจะเรียนรู้และทำได้ดี
นอกจากนี้ ยังตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนไม้ผลตำบลบ่อปลาทอง มีสมาชิกกว่า 70 คน แลกเปลี่ยนความรู้ ช่วยกันขายผลผลิต และยังได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ช่วยให้มีมาตรฐาน GMP และส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอด
นายเอกรัตน์กล่าวอีกว่า ครูหลายคนเป็นหนี้เพราะไม่มีการวางแผน ตนไม่อยากเป็นแบบนั้น จึงเริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่ายกับครอบครัวตั้งแต่ก่อนเกษียณ ดูว่ารายได้มีเท่าไหร่ รายจ่ายไปไหนบ้าง พอเห็นภาพชัดก็รู้วิธีจัดการ ตอนนี้อยู่ได้แบบไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน แถมยังได้ทำงาน ได้มีเพื่อน มีสังคม ได้แบ่งปันความรู้ให้คนอื่นด้วย เป็นวิทยากรบ้าง จัดอบรมบ้าง ทำให้รู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น
ส่วนอนาคตอยากพัฒนาเรื่องการแปรรูปผลผลิต เช่น มะพร้าว ฝรั่ง ละมุด ให้เก็บได้นานขึ้น สร้างแบรนด์ของตัวเอง เพื่อยกระดับคุณภาพให้มากกว่าเดิม เชื่อว่าถ้าคิดและลงมือทำตั้งแต่ยังมีแรงมันจะประสบความสำเร็จ และสำคัญคือ อย่าลงทุนครั้งเดียวแบบใหญ่โต ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ เรียนรู้ แล้วจะรู้ว่าพืชแบบไหนเหมาะกับตัวเองและพื้นที่ของเรา
อยากฝากถึงเพื่อนครูทั่วประเทศที่กำลังจะเกษียณ หรือแม้แต่คนที่ยังอยู่ในระบบว่าการเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ อย่ารอให้ถึงวันนั้นแล้วค่อยคิด ชีวิตหลังเกษียณสามารถมีความสุขและมั่นคงได้ถ้าเรารู้จักวางแผน และเลือกทำในสิ่งที่เรารัก อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่ แม้จะเป็นอาชีพที่ไม่เคยทำมาก่อน แค่เราเปิดใจ เรียนรู้ และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้เหมือนที่ตนทำมาแล้ว
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาดูงาน หรือสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อได้ที่ นายเอกรัตน์ แทนฉิมพลี บ้านเลขที่ 70 บ้านกระเซาะราก หมู่ 7 ตำบลบ่อปลาทอง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา