พิษณุโลก - หัวร้อนเกิ้นนนน..สาวแม่ค้าออนไลน์พิษณุโลก คาดเข้าใจผิดถูกโพสต์ด่าบนเฟซบุ๊ก บุกตบพนักงานสาวร้านซักผ้าวัย 18 จนร่วงตกเก้าอี้ต่อหน้าเพื่อน พนง.-เด็ก แถมคว้าหมวกกันน็อกฟาดซ้ำ พ่อผู้เสียหายโร่แจ้งความดำเนินคดี
วันนี้ ( 2 พ.ค. 68 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อว่า “ช. แชมป์ อัครวุฒิ” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่ลูกสาวของตัวเองถูกวัยรุ่นสาวคู่อริบุกมาทำร้ายถึงที่ทำงานร้านซักผ้าแห่งหนึ่งของ จ.พิษณุโลก พร้อมระบุข้อความว่า “ทำร้ายลูกผมขนาดนี้ ติดต่อกลับด้วยนะครับ ไม่ต้องรอให้ตาม จะเอากันถึงตายเลยเหรอ รถผู้ก่อเหตุจีออโน่สีเหลือง ทบ.1 กว 55 พล.”
หลังโพสต์เผยแพร่ผ่าน กลุ่มเฟซบุ๊ก “พิษณุโลกบ้านเรา” มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อออกไปจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและกระทำความรุนแรงทำร้ายร่างกายที่แสดงออกมาภายในคลิปดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบ ที่ร้านแคคตัส วอช แอนด์ ดราย ตั้งอยู่เลขที่ 6 ถนนสิงหวัฒน์ ต.บ้านคลอง อ.เมือง สถานที่เกิดเหตุ พบกับนายภุชงค์ สายสิทธิ อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า เวลา 16.30 น. ของวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.A นามสมมติ และ น.ส. B นามสมมติ อายุ 18 ปี พนักงานพาสไทม์ของทางร้านซักผ้า กำลังนั่งทำงานรอลูกค้าอยู่ ปรากฏว่ามีหญิงสาววัยรุ่นอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน บุกเข้ามาทำร้ายร่างกาย น.ส.A ด้วยการกระชากผมจนร่วงตกจากเก้าอี้ แล้วตบตีอย่างรุนแรงก่อนจะใช้หมวกกันน็อกฟาดตามร่างกายหลายครั้ง โดยมี น.ส.B ยืน งง กับเหตุการณ์และมีเด็กอยู่หลังร้าน ถือว่าเป็นการกระทำความรุนแรงอุกอาจต่อหน้าเยาวชน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป
นายภุชงค์ สายสิทธิ เจ้าของร้าน กล่าวว่า น.ส.A มาแจ้งว่าถูกทำร้ายขณะนั่งทำงาน
พอตนกลับมาที่ร้านจึงเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่ามีการทำร้ายกันเกิดขึ้นจริง จึงสอบถามเรื่องราวที่มาที่ไปทราบว่า น.ส.A เคยมีเรื่องบาดหมางกับหญิงสาววัยรุ่นซึ่งเป็นแม่ค้าออนไลน์ วันเกิดเหตุได้มาส่งสินค้าที่เพื่อนพนักงานอีกคนสั่งไว้ แต่วันนี้ไม่ได้มาทำงาน
แม่ค้าออนไลน์จึงนำของมาฝากให้ที่ร้าน บอกว่าขอฝากของเอาไว้หน่อย แต่ น.ส.A ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย แต่มีการมองหน้าเขม่นกันแล้วผู้ก่อเหตุก็กลับออกไปนอกร้านแล้วเบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์ ก่อนจะย้อนกลับมาอีกครั้งแล้วบุกเข้ามาทำร้ายตบตีตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งคาดว่าน่าจะเข้าใจผิดคิดว่า น.ส.Aโพสต์สตอรี่เฟซบุ๊กแขวะตัวเอง จึงย้อนกลับมาทำร้ายดังกล่าว
หลังเกิดเรื่องตนจึงพา น.ส.A ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและข้อหาบุกรุก ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“ปกติ น.ส.A มาทำงานพาสไทม์ในช่วงปิดเทอม ถือว่าเป็นเด็กที่ขยันทำงานอีกด้วย ซึ่งวันนี้ได้หยุดงานเพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พบว่ามีร่องรอยบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา อีกทั้งหญิงสาวผู้ก่อเหตุยังกล้าลงมือต่อหน้าเด็กและเยาวชน จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีตามกฎหมาย”
