มุกดาหาร-จังหวัดมุกดาหารตายแล้ว 1 เสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์ พบมีประวัติสัมผัสและบริโภคเนื้อวัวดิบ เผยทั้งจ.มุกดาหารมีผู้ป่วย 4 ราย ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 3 ราย เตือนประชาชนงดบริโภคเนื้อสัตว์ดิบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร งดบริโภคเนื้อวัว ควาย แพะ และแกะ แบบดิบ ป้องกันติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน และอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อประชาชนในพื้นที่ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล ได้สัมผัสและบริโภคเนื้อวัวที่คาดว่าอาจปนเปื้อนเชื้อโรค
ต่อมาเริ่มมีอาการไข้และมีตุ่มที่ผิวหนัง จึงถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลดอนตาล และต่อมายังโรงพยาบาลมุกดาหาร แต่อาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตในวันที่ 30 เมษายน 2568 แพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์ โดยผู้เสียชีวิตรายนี้นับเป็นรายแรกของจังหวัดมุกดาหาร
นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่บริโภคเนื้อวัวร่วมกับผู้ป่วย พร้อมให้ยาป้องกันไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2568 ทั้งนี้ โรคแอนแทรกซ์ไม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ส่วนมาตรการควบคุมโรค อำเภอดอนตาลได้จัดตั้งจุดตรวจและจุดสกัด 4 แห่ง ได้แก่บ้านป่าพะยอม บ้านนาห้วยกอก บ้านภูวง และหน้าสถานีตำรวจภูธรป่าไร่ เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ ณ บ้านโคกสว่าง ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล โดยพบว่ามีการเข้าตรวจสอบจุดชำแหละวัวที่มีอาการต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่จากด่านกักกันสัตว์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจ และฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณโดยรอบ และฉีดวัคซีนให้กับโค และกระบือ ในรัศมี 5 กิโลเมตรจำนวน 800 ตัว เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค
นายทัศนเทพ รักษ์พิทักษ์กุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านโคกสว่าง เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยรวมไม่น่าเป็นห่วง ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการและท้องถิ่น ที่เข้ามาสนับสนุนการควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด และได้ณรงค์ให้ประชาชน งดบริโภคเนื้อดิบ รวมถึงขอความร่วมมือหากพบสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะวัว มีอาการผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
เริ่มแรกวันที่ 12 เมษายน และวันที่ 13 เป็นบุญผ้าป่า ได้ซื้อวัวมาชำแหละแบ่งปันกัน มีผู้ป่วยที่เสียชีวิต เกิดมีบาดแผลเป็นตุ่มอยู่ที่มือ และได้มาร่วมชำแหละวัวด้วยกัน หลังจากนั้นได้แยกย้ายกัน วันที่ 14-15 เมษายน เริ่มมีอาการ ยังไม่ไปรักษาตัว พอมาวันที่ 28 เมษายน มีวัวตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้ประสานปศุสัตว์อำเภอมาตรวจสอบการตาย เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ฝังดินกลบ แต่มีทีมงานอีก 1 ชุด มานำวัวตัวนั้นมาชำแหละ เพื่อแบ่งปันไปทำอาหาร พอดีได้ทราบข่าวผู้ป่วย คือนายพัฒน์ คนยืน ผู้ตาย ก็ได้ประกาศให้ชาวบ้านที่นำเนื้อวัวไปให้นำเนื้อวัวไปกลบฝังดินเผา ห้ามรับประทานโดยเด็ดขาด
หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ออกมาสำรวจ ฉีดวัคซีน ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณป่าสวนยางพาราที่ชำแหละวัว และบริเวณใกล้เคียงที่ชำแหละ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากหมูหรือมาจากวัว วัวที่มาชำแหละมาจากบ้านนาสะโน อำเภอดอนตาล พื้นที่ใกล้กัน ส่วนผลการตรวจชิ้นเนื้อวัวจะออกในวันศุกร์ ตอนนี้มีผู้ป่วย 4 คน เสียชีวิต 1 คน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 คน
นายบุญ คนยืน อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ 87 หมู่ 6 บ้านโคกสว่าง บอกว่ากังวลใจที่มีคนตายด้วยโรคแอนแทรกซ์ มาจากวัว หลังแพร่กระจายที่บ้านมีหลายตัว ทางปศุสัตว์ออกมาฉีดยาวัวในหมู่บ้านทุกตัว ออกมาติดตามตลอด วัวตายเจ้าของอยากชำแหละ และคนชำแหละก็มีบาดแผลมาก่อน ผู้ตายมีอาชีพก่อสร้าง เป็นคนบ้านเหล่าหมี ชาวบ้านมีความกังวล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สกัดเขตปริมณฑล 5 กิโลเมตร ห้ามนำสัตว์เข้า-ออก โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงมาพื้นที่เกิดเหตุ ทำให้ชาวบ้านสบายใจขึ้น
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานทางการ และหากมีอาการเข้าข่าย เช่น ไข้ ไอ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ผิวหนังมีตุ่มหนองกลายเป็นแผลสีดำ หรือมีอาการทางเดินอาหารผิดปกติ และมีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ยืนยันผู้ป่วยเสียชีวิต คือนายพัฒน์ คนยืน อายุ 53 ปี ชาวบ้านเหล่าหมี ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร โรคประจำตัวเบาหวาน อาชีพรับจ้างก่อสร้าง มีประวัติสัมผัสและบริโภคเนื้อวัวที่คาดว่าอาจปนเปื้อนเชื้อโรค ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลดอนตาล ส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลมุกดาหาร แต่อาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตในวันที่ 30 เมษายน 2568 แพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์ โดยผู้เสียชีวิตรายนี้นับเป็นรายแรกของจังหวัดมุกดาหาร