xs
xsm
sm
md
lg

เศร้าสลด!ลูกสาว-ญาติพี่น้อง-เพื่อนบ้าน หลั่งน้ำตาร่วมสวดศพเหยื่อปูนถนนพระราม 2 ร่วงทับดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - ทั้งลูกสาว-ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านหลั่งน้ำตาร้องไห้ระงม พาร่างเหยื่อเศษปูนสะพานพระราม 2 ร่วงทับรถดับกลับบ้านเกิด เผย รมต.สั่งเจ้าหน้าที่เตรียมสถานที่ก่อนร่วมพิธีสวดด้วย


ครอบครัวและญาติพี่น้อง ได้จัดงานสวดพระอภิธรรมศพนายอำนาจ ทองขำ ผู้เสียชีวิตจากเหตุเศษหินก้อนใหญ่จากสะพานพระราม 2 ร่วงหล่นทับขณะขับรถไปทำงาน สะพานข้ามแยกมหาชัย จ.สมุทรสาคร ขึ้นที่วัดยางตาล อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์

และก่อนที่จะมีการสวดคืนแรก 30 เมษายน 2568 แขวงการทางจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับคำสั่งจากรัฐมนตรีฯ ให้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจัดเตรียมสถานที่ ทำความสะอาด ตัดแต่งต้นหญ้าและกิ่งไม้ ภายในวัด

เพื่อรองรับการเดินทางมาร่วมงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการและผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม อีกด้วย

สำหรับบรรยากาศในพื้นที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก ชาวบ้านที่รู้จักกับผู้เสียชีวิตหลายราย ต่างแสดงความอาลัยและไม่คาดคิดว่าจะเกิดแบบนี้กับคนในหมู่บ้านของตนเอง

ขณะที่นางสาวสุภาลัธ พลายสายทอง อายุ 25 ปี เปิดเผยว่า คนในหมู่บ้านต่างรู้สึกช็อกและเสียใจอย่างมากกับการจากไปของนายอำนาจ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ปื๊ด"

ซึ่งนายอำนาจ ผู้เสียชีวิต เป็นชาวบ้านในพื้นที่ตั้งแต่กำเนิด หลังเรียนจบได้ย้ายไปทำงานเป็นหน้าหน้างานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเวลากว่า 10 ปี โดยจะกลับมาเยี่ยมมารดาปีละประมาณ 2 ครั้งในช่วงเทศกาลสำคัญ

นางสาวสุภาลัธ ยังให้ข้อมูลว่า แม่ของนายอำนาจ มีบุตร 2 คน โดยมีนายอำนาจเป็นลูกชายคนโต ซึ่งมีส่วนสำคัญในการส่งเสียเลี้ยงดูมารดา พร้อมกับสร้างอาชีพ ด้วยการทำฟาร์มกบ และโรงเพาะเห็ด ให้มารดาขายเลี้ยงชีพในบั้นปลายชีวิต

ส่วนตัวนายอำนาจ หลังจากไปอยู่ทำงานที่จังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้พบกับภรรยาจนสร้างครอบครัว โดยมีลูกสาว 1 คน ชื่อน้องน้ำหวาน วัย 18 ปี เพิ่งจะเรียนจบชั้นมัธยมตอนปลาย และกำลังเตรียมจะสอบเข้าเรียนมหาลัย แต่สุดท้าย ก็ต้องมาพบกับข่าวร้าย ด้วยการสูญเสียคุณพ่อเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงร่างอันไร้วิญญาณของนายอำนาจมาถึงที่วัด ปรากฏว่า ญาติพี่น้องและคนในหมู่บ้านเดียวกัน ต่างเก็บกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ โดยเฉพาะน้องน้ำหวาน ลูกสาวคนเดียวของนายอำนาจ ร้องไห้ด้วยความสะเทือนใจ เมื่อเห็นร่างของพ่อต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งสร้างความน่าสลดหดหู่ต่อบรรยากาศของงานเป็นอย่างยิ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น