สุรินทร์ - โผล่อีกราย เหยื่อการ์ดผับตะวันแดงสุรินทร์โหด เผยพฤติกรรมป่าเถื่อนกระทืบเหยื่อพนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่ง รพ.เข้า ICU เลือดคั่งในสมอง สลบไม่รู้สึกตัว 4 วัน จำอะไรไม่ได้ กล้ามเนื้ออ่อนแรงเดินไม่ได้ ต้องนอนรักษาตัวทำกายภาพบำบัดอยู่ครึ่งปี แต่สมองไม่กลับมาเหมือนเดิม ไร้การเยียวยา อ้างการ์ดป้องกันตัว กล้องวงจรปิดเสีย ทุกวันนี้ยังผวาแม้ผ่านมา 6 ปี ต้องเสียโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน
วันนี้ (30 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกลุ่มการ์ดผับดัง “ผับตะวันแดง มหาซน ณ สุรินทร์” 6-7 คนรุมกระทืบลูกค้านักเที่ยว 2 ราย คือ นายอนุชา จารัตน์ อายุ 28 ปี (ผมยาว) และ นายสุรินทร์ สมานใจ อายุ 31 ปี (ผมสีทอง) ทั้งสองเป็นชาวอำเภอเขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้านอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.เช้าของวันที่ 26 เมษายน 2568 ซึ่ง เพจต่างๆ ได้มีการนำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมาโพสต์เผยแพร่จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่รุนแรงป่าเถื่อน
หลังจากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.เอกพงษ์ พลมณี ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ใจความว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากร้านปิดแล้ว และทั้งสองมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยอาการไม่หนัก ช่วงเช้าก็ได้ให้ตำรวจเข้าไปเยี่ยมดูอาการและสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งสองแล้ว ส่วนผู้ที่ร่วมกันกระทำก็จะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยทางฝ่ายสืบสวนทราบชื่อหมดแล้ว ใครทำอะไรก็เป็นไปตามรูปพฤติการณ์ของคดี ต้องรอผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาลก่อน คนไหนทำหนักก็ว่ากันไป จะมีการชี้ภาพผู้ต้องหาอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ถามว่ามีตำรวจไปเป็นการ์ดในผับนั้นด้วยหรือไม่ นั้น ตนไม่ทราบเพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ แต่เท่าที่ดูไม่มีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนี้ มีแต่เข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาได้มีชาวเน็ตสังเกตในคลิปพบว่าในบรรดากลุ่มคนที่พากันรุมกระทืบคนเจ็บนั้น หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ ซึ่งลูกค้าขาประจำผับดังแห่งนี้รู้จักกันดี ชื่อ “ดาบหยิม” สังกัดชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ จึงส่งผลถึงญาติผู้บาดเจ็บทำให้เกิดความกังวลใจในด้านของคดีที่อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ตอนนี้รอผลทางนิติเวชเพื่อจะนำไปประกอบในการแจ้งความดำเนินคดี พร้อมได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ เพื่อขอความเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ได้มีการโอนคดีจาก สภ.เมืองสุรินทร์ มายังกองบังคับการภูธรจังหวัดสุรินทร์ดำเนินการต่อนั้น
ล่าสุดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นาย ส. อายุ 53 ปี (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ผู้ซึ่งเคยผ่านเหตุการณ์ถูกการ์ดผับดังกล่าวทำร้ายเมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา จนอาการสาหัส ต้องเข้า ICU นอนรักษาตัวอยู่นานใน รพ. ก่อนกลับมารักษาตัวที่บ้านต่ออีกครึ่งปี ได้เปิดเผยถึงการใช้ความรุนแรงของการ์ดผับแห่งนี้ว่า
เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2562 ตนได้ไปเที่ยวที่ผับแห่งนี้ แต่ไม่รู้ว่าโดนไม้หรืออะไรจำไม่ได้ รู้ตัวอีกทีเห็น ลูกชายเล่าให้ฟังว่าพาไปส่งโรงพยาบาลตามที่เขาบอก อยู่ห้อง ICU ไม่รู้สึกตัวประมาณ 3-4 วัน รู้สึกตัวอีกทีก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่ออกจากโรงพยาบาลวันไหนก็ยังจำไม่ได้ ตามใบแพทย์ระบุว่า ก้านสมองอักเสบอย่างรุนแรง เลยทำให้ความจำหายไป จำเหตุการณ์ในช่วงนั้นไม่ได้ว่าไปโดนอะไรมา
หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็ไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านนอก ด้วยอาการเดินไม่ได้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องทำกายภาพบำบัดอยู่ 6 เดือน จึงดีขึ้นได้กลับมาทำงานต่อ ความจำตอนนี้ก็จำได้แป๊บหนึ่งสักพักลืม สาเหตุน่าจะเกิดจากเหตุการณ์ที่โดนกระทำ เพราะเมื่อก่อนก็ไม่เป็นแบบนี้ ถามว่าได้ไปฟ้องร้องหรือไม่ ตอนนั้นทางตำรวจเขาได้จับคนที่ทำร้ายตนซึ่งเป็นการ์ดของผับที่นั่น แต่กว่าจะเดินเรื่องตอนนั้นก็นานครึ่งปี เพราะตนต้องรักษาตัวไปไหนไม่ได้ เรื่องจบที่ศาลก็ปีกว่า โดยศาลยกฟ้อง ตัดสินว่าเขาป้องกันตัวเอง ก็เลยไม่ได้รับการเยียวยาอะไร
ส่วนกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตำรวจเขาไปตรวจสอบก็พบว่าตอนเกิดเหตุกล้องเสียใช้งานไม่ได้เส้นสายเขาใหญ่โต ตอนไปเที่ยวกลับมาลูกบอกว่าเพื่อนมาส่งที่บ้าน แล้วลูกก็พาตนไปนอนที่ห้อง พอลูกชายเห็นเลือดก็เลยพาไปส่งโรงพยาบาล เหตุการณ์ก็ตามที่บอก ทุกวันนี้ทำงานก็ไม่ได้เต็มร้อยหรอกแล้วแต่เขาจะให้งานตามสภาพที่ทำได้ ก็เลยเสียโอกาสในหน้าที่การงานไป แทนที่เราจะได้เติบโตไปข้างหน้าก็ต้องมาชะงักอยู่กับที่ เพราะสมองมันไปไม่ได้ ทุกวันแค่เดินปกติยังทำไม่ได้เลย
ด้านลูกชายผู้ถูกกระทำเล่าว่า วันนั้นมีเพื่อนพ่อมาส่งพ่อที่บ้านประมาณตี 2-3 สภาพก็คือเหมือนเมามาก ตอนแรกตนก็คิดว่าเมาหนักจึงแบกพ่อเข้าไปนอนในห้อง โดยไม่ได้สังเกตว่ามีเลือด พอออกมาเห็นมีรอยเลือดหยดตามมุมบ้าน จึงเข้าไปดู พอเห็นเลือดไหลออกมาตามหู จึงพาพ่อไปส่งที่โรงพยาบาล เข้าห้องฉุกเฉินส่งตัวเอกซเรย์ ระบุว่ากะโหลกศีรษะร้าวมีเลือดคั่งในสมอง อยู่ในห้อง ICU ประมาณ 3-4 วัน ออกมาพักที่ห้องรวมอีกประมาณหลายเดือน ก่อนออกมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านต่อ พอถามถึงเหตุการณ์ก็จำอะไรไม่ได้เลย
ทั้งนี้ เหยื่อออกมาพูด เพียงแค่ต้องการให้สังคมได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของการ์ดที่ดูแลผับเท่านั้น ส่วนการ์ดที่ทำร้ายลูกค้าล่าสุดไม่รู้ว่าเป็นชุดเดียวกันหรือไม่ ส่วนผู้เสียหายรายอื่นที่เคยโดนกระทำก็สามารถออกมาเปิดเผยข้อมูลได้