อุทัยธานี - จับได้คาหน้าวิหาร โจรขโมยเงินตู้บริจาควิหารหลวงพ่อปั้น หลังย่ามใจมาก่อเหตุซ้ำ พบเป็นวัยรุ่นชายอายุ 18 ปี เป็นใบ้ เร่งตามจับเพื่อนคู่หูอีกราย หลังได้ข้อมูลพักอยู่ที่รีสอร์ต
ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุขโมยเงินตู้บริจาคในวิหารหลวงพ่อปั้น วัดหาดทนง อำเภอเมืองอุทัยธานี เดือนเดียวถึง 4 ครั้งรวด ล่าสุดตำรวจสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย หลังย่ามใจกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งเมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.37 น.
คาดว่าผู้ก่อเหตุรายนี้น่าจะเป็นรายเดียวกันกับที่เข้ามาก่อเหตุไปก่อนหน้านี้ (วันที่ 5 เมษายน 68) โดยภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวิหาร และด้านหน้าวิหารหลวงพ่อปั้น สามารถจับภาพคนร้ายรายนี้ขณะที่ลงมือก่อเหตุ และขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลจับกุมไว้ได้อย่างทันควัน ก่อนคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองอุทัยธานี
ทราบชื่อผู้ก่อเหตุรายนี้คือ นายอลงกรต อายุ 18 ปี เป็นคนในพื้นที่ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองขาหย่าง ซึ่งเป็นผู้พิการที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน-เป็นใบ้ ถูกจับพร้อมด้วยของกลาง เป็นธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 40 บาท รถสามล้อเครื่องสีแดง จำนวน 1 คัน ไขควงแบน จำนวน 1 อัน ไฟฉายคาดศีรษะ จำนวน 1 อัน กระเป๋าสีแดง จำนวน 1 ใบ
เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป
วันนี้ (30 เม.ย.) พ.ต.อ.ภคิน วรรณศรี ผกก.สภ.เมืองอุทัยธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนนี้ทางสายตรวจตำบลสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุขโมยเงินในตู้บริจาควิหารหลวงพ่อปั้นได้ ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุรายนี้น่าจะเป็นรายเดียวกันกับที่เข้ามาก่อเหตุพร้อมพวกไปก่อนหน้านี้แล้ว 4 ครั้ง
และเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ทางไวยาวัจกรวัดได้มาแจ้งความต่อ สภ.เมืองอุทัยธานี ในเรื่องดังกล่าว ทางเราจึงได้มีการประสานไปยังผู้นำหมู่บ้าน ประชุมหารือดำเนินการร่วมกันในทันที โดยการเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเพิ่มความถี่มากกว่าเดิม พร้อมทั้งดำเนินการโหลดแอปพลิเคชันของกล้องวงจรปิดรอบวิหารเอาไว้ในมือถือ ทั้งของผู้นำหมู่บ้าน และของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบล เพื่อให้มีการแจ้งเตือนหากมีผู้เข้ามาในวิหารในยามวิกาล
หลังจากที่ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาก่อเหตุในวิหาร จึงทำให้ทางตำรวจสายตรวจตำบลสามารถจับกุมตัวได้ทันดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่คนร้ายลงมือก่อเหตุได้ถึง 4 ครั้งนั้น เป็นเพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความให้ทางตำรวจทราบ จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้คนร้ายนั้นย่ามใจเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก
ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีกรายที่เคยมาด้วยกันก่อนหน้านี้ (ที่ก่อเหตุ 4 ครั้ง) นั้น เบื้องต้นเช้านี้หลังจากที่ได้ล่ามแปลภาษาเข้ามาพูดคุยสอบถามกับทางผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นใบ้แล้วทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุอีกรายนั้นพักอยู่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดอุทัยธานีกับนครสวรรค์ โดยอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลต่ออีกครั้ง
ทั้งนี้ พฤติการณ์ของคนร้ายนั้นเป็นชาย 2 ราย เข้ามาขโมยเงินในตู้บริจาคในช่วงเวลาประมาณ ตี 2-ตี 4 ซึ่งครั้งแรกนั้นเข้ามาขโมยเมื่อวันที่ 5 เมษายน เวลา 03.43 น. ส่วนครั้งที่ 2 ถึงครั้งที่ 4 นั้น ก่อเหตุ 1 คน (กำลังติดตามจับกุมตัวอยู่) โดยครั้งที่สองวันที่ 10 เมษายน เวลา 04.41 น. ครั้งที่สามในวันที่ 15 เมษายน เวลา 02.07 น. และล่าสุดคือวันที่ 22 เมษายน เวลา 21.54 น. โดยไม่สนใจว่าในตู้นั้นจะมีเงินเท่าไหร่ เพราะขนาดมีแค่เหรียญบาทไม่กี่เหรียญโจรรายนี้ก็ยังเก็บไปจนเกลี้ยงตู้
