xs
xsm
sm
md
lg

สุดเวทนา! แม่ลูกสามชาวบุรีรัมย์ คนเล็กพิการ-สามีติดคุกไร้ที่พึ่ง อาศัยข้าวก้นบาตรประทังชีวิต วอนช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - สุดเวทนาชีวิตแม่ลูกสามชาวบุรีรัมย์ คนสุดท้องพิการทางสมองและร่างกาย ต้องดูแลตลอดไม่สามารถออกไปทำงานได้ สามีที่เป็นเสาหลักเพียงคนเดียวถูกจับติดคุกคดีลักทรัพย์นายจ้างหวังเอาเงินมาดูแลครอบครัว มีเพียงเบี้ยคนพิการเงินบัตรคนจนไว้ซื้ออาหารเหลวให้ลูกพิการ ส่วนอีก 3 ชีวิตต้องอาศัยข้าวก้นบาตรพระประทังชีวิต บ้านที่ซุกหัวนอนอาศัยคนอื่น วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

วันนี้ (29 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านซับสมบูรณ์ ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ว่า มีครอบครัวหนึ่งน่าเวทนาสงสาร เนื่องจากแม่ต้องเลี้ยงดูลูก 3 คน ซึ่งคนสุดท้องวัยเพียง 5 ขวบพิการ เพียงลำพัง หลังจากสามีที่เป็นเสาหลักออกรับจ้างหารายได้เลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ถูกจับติดคุกเพราะลักทรัพย์นายจ้างด้วยการขโมยยางพาราขายหวังเอาเงินไปหมุนเวียนใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้ทั้งแม่และลูกรวม 4 ชีวิต ต้องอาศัยข้าวก้นบาตรพระที่วัดมากินประทังชีวิต


จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านซับสมบูรณ์ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ตามที่ได้รับแจ้ง พบ น.ส.จิราภรณ์ ต้นแก้ว อายุ 36 ปี กำลังดูแล ด.ช.ธีราธร หรือน้องปลื้ม อายุ 5 ขวบ 5 เดือน ซึ่งพิการทางสมองและร่างกายนอนเป็นเจ้าชายนิทรา ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องคอยเช็ดตัวให้อาหารเหลวทางสายยาง ป้อนยา บางครั้งต้องใช้เครื่องพ่นยาเวลาหายใจติดขัดและดูดเสมหะ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะหากน้องมีอาการชักก็เสี่ยงทำให้หยุดหายใจได้


ทำให้ผู้เป็นแม่ไม่สามารถออกไปรับจ้างทำงานหาเงินได้ มีเพียงเบี้ยคนพิการของลูกชายคนเล็กเดือนละ 1,000 บาท เงินเด็กแรกเกิดอีก 600 บาท และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของแม่เดือนละ 300 บาท ที่ไว้สำหรับซื้ออาหารเหลวทางการแพทย์ นม และผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูกคนเล็กที่พิการ ส่วนแม่ รวมถึงลูกชายคนโต อายุ 14 ปี กำลังจะขึ้น ม.3 และลูกสาวคนเล็ก อายุ 10 ขวบ กำลังจะขึ้นชั้น ป.5 ก็ขอข้าวก้นบาตรพระที่วัดมากินประทังชีวิต บางครั้งมีเพื่อนบ้านที่สงสารแบ่งปันให้บ้าง


น.ส.จิราภรณ์ ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เมื่อก่อนที่สามียังไม่ถูกจับก็ยังพอรับจ้างหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ แต่พอสามีถูกจับติดคุกตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ. 2567 เพราะไปขโมยยางพารานายจ้างขายเพื่อเอาเงินมาดูแลครอบครัวซื้ออุปกรณ์การเรียนให้ลูก ตนกับลูกก็ใช้ชีวิตด้วยความลำบากมาก เพราะตนไม่สามารถออกไปทำงานได้ต้องดูแลลูกคนเล็กที่พิการ แต่บางครั้งที่ไม่มีข้าวก้นบาตรจากวัด ก็จำใจฝากให้ลูกชายคนโตช่วยดูแลน้องพิการ เพื่อที่แม่จะได้ออกไปรับจ้างหยอดน้ำกรดหรือกรีดยางตอนเช้ามืด ก็จะได้ค่าจ้างมาครั้งละ 100-200 บาทไว้ซื้อข้าวกิน แต่ไม่กล้าทิ้งลูกพิการไว้บ่อยเพราะกลัวเขาจะชักเสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิต


ทั้งสงสารลูกคนโตกับคนกลางที่แม่ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียน รองเท้านักเรียนให้ ต้องใส่ชุดที่ได้รับบริจาคมา แม้จะเก่าและขาดบ้าง ส่วนปู่กับย่าและญาติพี่น้องเขาก็ยากจนดิ้นรนหากินปากท้องตัวเอง ก็หยิบยื่นให้ได้บ้าง

ส่วนบ้านที่อาศัยอยู่ปัจจุบันก็เป็นที่ดินของญาติสามีไม่นานเขาก็จะเอาคืน ก็อยากจะขอความเมตตาจากผู้ใจบุญช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องอาหารเหลวทางการแพทย์ นม และผ้าอ้อมสำเร็จรูปของลูกพิการ ข้าวสารอาหารแห้งไว้กินประทังชีวิต และชุดนักเรียนของลูกทั้ง 2 คน เพราะไม่รู้ว่ากี่ปีสามีถึงจะพ้นโทษ


ด้าน นายจรัส บุญหนัก ผู้ใหญ่บ้านซับสมบูรณ์ บอกว่า เท่าที่เห็นครอบครัวนี้ก็น่าสงสาร หากสามีไม่ถูกจับติดคุกก็ยังพอออกไปรับจ้างหาเลี้ยงครอบครัวได้ แต่หลังจากถูกจับคนเป็นภรรยาซึ่งต้องดูแลลูกพิการก็ออกไปรับจ้างไม่ได้ ต้องอาศัยข้าวก้นบาตรพระที่วัดมากินกับลูก หากวันไหนไม่มีข้าวก้นบาตร เพื่อนบ้าน และผู้ใหญ่บ้านก็จะแบ่งปันข้าวอาหารให้บ้างตามกำลังที่พอจะช่วยได้

ส่วนหน่วยงานอื่นก็ช่วยเหลือได้ตามระเบียบหลักเกณฑ์ เช่น เบี้ยคนพิการ เงินเด็กแรกเกิด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และล่าสุดได้ทำเรื่องของบจากสภาองค์กรชุมชนจังหวัด เพื่อมาสร้างบ้านให้ครอบครัวนี้อาศัย ก็ได้งบมา 30,000 บาทเพื่อซื้อวัสดุอุปกรณ์ ส่วนแรงงานคนทั้งผู้นำและชาวบ้านก็ช่วยกัน

น.ส.จิราภรณ์ ต้นแก้ว อายุ 36 ปี
อย่างไรก็ตาม หากผู้มีใจบุญอยากจะช่วยเหลือครอบครัวนี้ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารอาหารแห้ง อาหารเหลวเด็กพิการ ชุดนักเรียน สามารถติดต่อผู้เป็นแม่โดยตรงได้ที่เบอร์ 09-8773-2347 ติดต่อที่เบอร์ผู้ใหญ่บ้าน 08-1072-5282 และหากใครพอมีกำลังอยากจะช่วยเหลือเป็นเงิน ก็สามารถบริจาคได้เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น