พี่สาวผู้คุมเรือนจำก็โดน! โจรบาปกราบแล้วงัดลักเงินบริจาค “หลวงพ่อปั้น” ขโมยดะรถเข็นก็ไม่เว้น

อุทัยธานี​ - บ้านพี่สาวผู้คุมเรือนจำยังโดน
เจ้าตัวงัดภาพกล้องวงจรปิดยัน มั่นใจ​ 2 คนร้ายกราบแล้วงัดตู้บริจาคหลวงพ่อปั้นเป็นรายเดียวกันกับที่ขโมยรถเข็นโครงเหล็กที่บ้านของตนเอง 


วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลท่าโพ อำเภอ​หนองขาหย่าง จังหวัด​อุทัยธานี​ ว่า ชายคนร้ายทั้ง 2 รายที่ก่อเหตุงัดตู้บริจาคที่วิหารหลวงพ่อปั้น วัดหาดทนง ตามที่เป็นข่าว ดูรูปพรรณสัณฐาน​ตรงกับคนร้ายที่มาก่อเหตุลักรถเข็นโครงเหล็กที่บ้านของตนเองไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน​ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 00.05 น. ซึ่งกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านสามารถจับภาพขณะที่ก่อเหตุเอาไว้ได้

ตนและน้องชายจึงได้โพสต์​เรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊ก​ เพื่อเตือนประชาชนให้ระวังคนร้ายทั้งสองนี้ว่า "คนเดียวกันครับ กับวัดหาดทนง มาขโมยของที่บ้าน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ระวังกันด้วยครับชาวอุทัยธานี"

หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบแล้วพบว่าน้องชายของผู้เสียหายรายนี้มีตำแหน่งเป็นผู้คุมอยู่ที่เรือนจำจังหวัดอุทัยธานีอีกด้วย ซึ่งเมื่อวันที่ 12 เมษายน​ที่ผ่านมา​ได้มีการโพสต์​ภาพกล้องวงจรปิดพร้อมข้อความว่า "มึงก็มาขโมย ไม่เช็กบ้านเขาเลยอะ!! ฝากแชร์ให้ด้วยนะครับ ให้เวลา 24 ชั่วโมง มามอบทั้งคนและของที่เอาไป #หากไม่ติดต่อมาจะดำเนินคดีตามกฎหมาย"

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลท่าโพ อำเภอ​หนองขาหย่าง จังหวัด​อุทัยธานี​ พบกับ นางสาวจิรวี อรุณ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้คุมเรือนจำ ได้พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่คนร้าย 2 คนมาก่อเหตุขโมยรถเข็นโครงเหล็กที่บ้านของตนเองไป

พร้อมเล่าว่า หลังจากที่ได้ดูข่าวไปเมื่อวานนี้ ตนและน้องชายมั่นใจมากว่าคนร้ายที่งัดตู้บริจาควิหารหลวงพ่อปั้น วัดหาดทนง เป็นรายเดียวกันกับที่มาก่อเหตุที่บ้านของตนอย่างแน่นอน เพราะรูปพรรณสัณฐาน​และเสื้อผ้าที่ใส่ก็ยังตรงกันมากๆ

โดยคนร้าย 2 คนนั้นมาก่อเหตุที่บ้านของตนเองไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน​ที่ผ่านมา​ แต่มารู้ว่ารถเข็นหายไปตอนที่จะไปหยิบมาใช้ จึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดย้อนดูในช่วงเวลาที่สุนัข​เห่า จึงพบว่ามีคนมาขโมยไป ตนเองได้ไปแจ้งความต่อตำรวจในวันที่ 13 เมษายน​ที่ผ่านมา​

แต่โชคดีที่หลังจากแจ้งความไว้แล้ว เมื่อวันที่ 18 เมษายน​มีพลเมืองดีแจ้งมาว่าเจอรถเข็นโครงเหล็ก​ซึ่งคล้ายกับของตนจอดอยู่ในป่า ที่บ้านทุ่งใหญ่ แถวคลองชลประทาน​ ห่างจากบ้านไปประมาณ 10 กิโลเมตร​ ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่​ตำรวจให้ช่วยลงไปดูพร้อมกัน

และพบว่าเป็นรถเข็นของตนจริงๆ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะรอจังหวะนำไปขายเศษเหล็กก็เป็นได้ เพราะรถเข็นคันนี้ที่บ้านจ้างช่างประกอบขึ้นมาเอง ใช้เหล็กอย่างดีและหนักมากๆ ซึ่งทางตำรวจได้ประมาณมูลค่าไว้ที่ 4,000-5,000 บาท

“อยากให้ช่วยจับคนร้ายให้ได้เพราะกังวลว่าจะไปก่อเหตุกับชาวบ้านรายอื่นอีก ทุกวันนี้หลังจากที่บ้านตนโดนขโมยรถเข็นไป ชาวบ้านในหมู่บ้านก็พากันเก็บเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์​การเกษตร​ที่มีค่าเข้าบ้านกันหมดทุกหลัง จากที่ปกติจะวางทิ้งกันไว้ที่หน้าบ้านบ้าง ที่คลองสูบน้ำบ้าง เพราะที่หมู่บ้านไม่เคยมีของหาย”