สุรินทร์- สุดเถื่อนใหญ่คับฟ้า การ์ดตะวันแดงสุรินทร์โหด 6 คนรุมกระทืบ 1 คน จนนอนแน่นิ่ง เท่านั้นไม่พอคนที่เข้าไปช่วยโดนด้วยถึงเลือดอาบ แถมเดินไปตบหน้าคนนั่งมองอีก
วันนี้ ( 26 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ partุ 6” ได้ลงคลิปภาพบุคคลกลุ่มหนึ่งประมาณ 6 คนได้พากันรุมทำร้ายร่างกายชาย 2 คน ที่บริเวณลานจอดรถตรงข้ามผับตะวันแดงสุรินทร์ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุข้อความว่า “ไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกกรณี มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ถึงกับต้องใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายกัน การ์ดตะวันแดงตั้งกี่คนไปรุมคนๆเดียว แล้วพี่คนที่เขาไปช่วยพี่เขาก็โดนรุมกระทืบเลือดอาบอีก ทำได้ยังไง ไอ้คนที่สั่งมันใหญ่มาจากไหน พอกระทืบเขาเสร็จเดินออกมาตบหน้าคนที่เขานั่งมองอีก มีเรื่องอะไรก็ไม่ควรใช้กำลังขนาดนี้ไหม ทำเกินไปหรือเปล่า #ตะวันแดงสุรินทร์”
หลังจากที่เพจดัง ดังกล่าวโพสต์เผยแพร่ พบว่ามีประชาชนชาวโซเชี่ยลเข้าไปแชร์และคอมเม้นต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่รุนแรงดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน เฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "Nuch Nittha" ก็ได้ลงคลิปดังกล่าวเช่นกัน โดยมีคลิปภาพชัดเจน 2 คลิปความยาว 24 วินาที กับ 8 นาที และ คลิปคนเจ็บนั่งเลือกโชกบริเวณศีรษะ ใช้มือจับบริเวณจมูกหน้าจับมือถือ คาดว่าอาจจะบาดเจ็บที่จมูกด้วย ความยาว 7 วินาที รวมทั้งหมด 3 คลิป พร้อมระบุข้อความว่า “การ์ดตะวันแดง ตั้งกี่คนไปรุมคนๆเดียว แล้วพี่คนที่เข้าไปช่วยพี่เขาก็โดนรุมกระทืบเลือดอาบอีกทำได้ยังไง ไอ้คนที่สั่งมันใหญ่มาจากไหน พอกระทืบเขาเสร็จเดินออกมาตบหน้าคนที่เขานั่งมองอีก มีเรื่องอะไรก็ไม่ควรใช้กำลังขนาดนี้ไหม ทำเกินไปหรือเปล่า #ตะวันแดงสุรินทร์" ซึ่งมีชาวโซเชียลเข้าไปแชร์และคอมเมนต์ถึงการกระทำที่รุนแรงเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ขณะที่ในคอมเมนต์ ของเฟกบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "Nuch Nittha" "ยังระบุอีกว่า ที่เรากล้าโพสต์เพราะเราเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปดู ต่อจากพี่ชายที่เข้าไปพยุงหัวพี่เขาไว้ แล้วเราโทร.แจ้งรถกู้ภัย โอโห ทำเขาจนนอนนิ่ง โหดเกิน ขออภัยวีดีโอที่อาจรุนแรงเกินค่ะ"
ล่าสุด ช่วงสายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังผู้โพสต์คลิป ซึ่งทราบว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์แอบถ่ายคลิป ได้รับคำตอบว่า "คนถ่ายคลิปยังไม่ตื่นและยังไม่สามารถรับสายได้" เบื้องต้นผู้สื่อข่าวยังไม่ทราบข้อมูลว่า ผู้ถูกรุมกระทืบและได้รับบาดเจ็บเป็นใคร
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวจะติดตามความคืบหน้ากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอข่าวให้ทราบอีกครั้งต่อไป
