ตราด- ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยลุยตรวจการบุกรุกพื้นที่ป่าบนเกาะช้าง จ.ตราด แบ่งกำลัง 4ชุดตรวจสอบ 4 เป้าหมายพบบุกรุกป่าถาวร 202 ไร่ เจ้าของมีทั้งคนไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังพบการถางป่าสร้างบ้าน ตัดต้นไม้หวงห้าม เตรียมหาตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดี
วันนี้ (25 เม.ย.) นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมล้อม(ทส.) ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด อำเภอเกาะช้าง ตำรวจเกาะช้าง ตำรวจ ตชด. ทหารนาวิกโยธินตราด ป่าไม้จากกองกำกับการ 2 บก.ปทส. และตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบการบุกรุกป่าถาวร 4 เป้าหมาย ที่บ้านคลองพร้าว ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด
โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด ตรวจสอบพร้อมกันทั้ง 4 เป้าหมาย ซึ่งพบว่าทั้งหมดมีการถางป่าในเขตป่าถาวร เพื่อปรับพื้นที่ปลูกทุเรียน ปาล์ม และมังคุด
นายชาญชัย เผยว่าจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบมีการบุกรุกป่าใหม่เพื่อปลูกทุเรียนและปาล์มน้ำมัน รวมประมาณ 70 ไร่ จากการพิสูจน์ทราบพบผู้ครอบครอง 2 ราย รายหนึ่งเป็นคนในพื้นที่ และอีกรายเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้วและจะแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะช้าง เพื่อใหเดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนแปลงที่ 2 พบการบุกรุกป่าจำนวน 42 ไร่, แปลงที่ 3 บุกรุกป่า จำนวน 80 ไร่ และแปลงที่ 4 พบการบุกรุก จำนวน 10 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 202 ไร่
" ที่ตรวจพบว่ามีการบุกรุกถือเป็น “ป่าไม้ถาวร” ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ อยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาที่ดิน โดยจะใช้กฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ พ.ศ. 2484 ในการดำเนินคดี หากผู้ครอบครองไม่สามารถแสดงเอกสารสิทธิ์ได้ นอกจากนี้ยังพบว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ยังมีการบุกรุกเพียงเล็กน้อยประมาณ 1-2 ไร่ และจะแจ้งไปยังอุทยานฯเกาะช้าง เข้าดำเนินการในขั้นตอนต่อไป"
หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการในครั้งนี้ไม่เลือกปฏิบัติ และจะขยายผลต่อไปในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเน้นแปลงขนาดใหญ่เป็นลำดับแรก ส่วนแปลงขนาดเล็กจะให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบต่อไป หากพบว่ามีการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดีเช่นกัน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำโดรนขึ้นสำรวจพื้นป่าเป้าหมายที่ 1 พบว่า มีการถางป่ากลางฮุบเขา มีเครื่องจักร มีรถยนต์ ที่กำลังก่อสร้างบ้านอยู่ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบว่ามีใครทำงานอยู่ อีกทั้วรถยนต์ยังถูกนำออกจากพื้นที่ ทิ้งไว้เพียงรถแบคโฮเล็ก 1 คัน และวัสดุอุปกรณ์ที่คาดว่าน่าจะใช้ก่อสร้างเป็นพัก เพราะมีกาาก่อสร้างฐานรากและเสาบ้านแล้ว
ส่วนบริเวณโดยรอบตรวจพบเป็นสภาพป่าผสมต้นยางพารา ที่คาดว่ามีการทำประโยชน์มานานแล้ว นอกจากนี้ยังพบ ต้นมะม่วงป่า ความสูงกว่า 20 เมตร ถูกตัดโค่จำนวน 1 ต้น โดย มะม่วงป่า ถือเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก. ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป
ส่วนการบุกรุกก่อสร้างบ้าน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าบุกรุกหรือไม่และจะต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปตรวจสอบก่อนว่ามีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ หากไม่มีจะดำเนินคดีบุกรุกป่าเช่นกัน
