นครปฐม - หนุ่มขับรถหกล้อ ออกโรงโต้ไม่ได้เป็นสาเหตุก่อให้ลุงขับแท็กซี่หัวใจวายตาย หลังมีภาพทะเลาะกันปรากฏบนท้องถนน ส่วนลูกชายยังติดใจการตายและยังไม่ทราบใครเป็นผู้รับโทรศัพท์มือถือของพ่อ หลังจากพยายามติดต่อมารู้อีกครั้งพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว
วันนี้( 25 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า หลังจากกรณี ในกรณีของคนขับรถกระบะตู้ทึบ 4 ล้อใหญ่ นายสาธิต บุญเบ้า อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 6 ต.สระประดู่ อ วิเชียรบุรี จ. เพชรบูรณ์ คนขับรถกระบะตู้ทึบ 4 ล้อใหญ่ยี่ห้อ isuzu สีขาวหมายเลขทะเบียน บฉ 3596 สมุทรสาคร คู่กรณีของนายสุรชัย ชลอยบุญ อายุ 59 ปี ลุงขับแท็กซี่ ที่เสียชีวิต ได้เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังจะขับรถกลับบ้านที่บ้านหนองนกไข่ จ.สมุทรสาคร
โดยวิ่งเข้าซอยวัดเทียนดัด ในจุดเกิดเหตุ จังหวะนั้นลุงแท็กซี่ได้ขับรถอยู่เลนซ้าย ตนเองจะเลี้ยวซ้ายเช่นกัน แต่ลุงไม่ให้เข้า ตนเองได้เปิดไฟเลี้ยวขอทางแต่ปรากฏว่าลุงแท็กซี่ได้จอดรถ ตนเองจึงจะลงไปถามว่าขอเข้าไม่ได้หรอ แต่ปรากฏว่าลุงขับแท็กซี่ได้ตอบกลับมาว่า “จะมาแทรกเ_ย อะไรตรงนี้ ’ ตนเองออกมาพูดเพื่อความบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้เป็นคนที่ทำให้ลุงแท็กซี่เสียชีวิต ทราบว่าในจุดที่ลุงจอดรถนั้นเป็นป้อมตำรวจ และตำรวจได้ขี่ตามผมแต่ตามไม่ทัน
จนกระทั่งกลับบ้านนอนไม่รู้เรื่องราว แต่เพื่อนได้โทรมาบอกว่าลุงแท็กซี่ได้เสียชีวิตแล้ว ตนเองจึงได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนที่ทำให้ลุงเสียชีวิต ขอฝากบอกถึงทุกๆคนที่มาแสดงความคิดเห็นบนโซเชียล คอมเม้นกันเสียหาย ช่วยแก้ไขให้ด้วย เรื่องของเรื่องเป็นเรื่องการขอเข้าทาง ซึ่งลุงแท็กซี่ไม่ให้เข้า แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน จังหวะนั้นไฟเขียวพอดี ตนเองจะลงไปถ่ายคลิปไว้ เพราะรถต้องเคลื่อนตัวต่อ แต่ลุงขับแท็กซี่ได้ถอยรถมาชนตนเอง จึงโมโหว่ามาชนตนเองทำไม จึงลงไปทุบกระจกข้างบานใหญ่ แล้วโทรศัพท์ของลุงแท็กซี่ก็ไม่ได้เป็นคนเอาไป ไม่รู้เรื่อง และไม่ได้หยิบอะไรของลุงมา เพราะลุงก็ไม่ได้ลงมาจากรถ กระจกก็ไม่ได้เปิด
อย่างไรก็ดีขอแสดงความเสียใจกับลุงขับแท็กซี่ด้วย ที่อาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเครียด แต่โทรศัพท์ตนเองไม่ได้หยิบไปแน่นอน และไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายลุง ส่วนรถที่เสียหายนั้น ลุงแท็กซี่เป็นคนถอยมาชนตนเอง
จากการสอบถามนายศิริวัฒน์ ชลอมบุญ อายุ 39 ปี อ.สามพราน จังหวัดนครปฐม ได้เปิดเผย ในเบื้องต้นว่า ตนเองได้ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตของพ่อ ทั้งนี้ได้เล่าว่าเมื่อช่วงประมาณ 20:00 น พ่อได้โทรมาว่ามีรถเกี่ยวกัน และมีเรื่องกันที่ปากซอยวัดเทียนดัด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตนเองจึงขับรถออกมาจากบ้าน แต่หาไม่เจอเลยถามบุคคลข้างทางว่า มีเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ ปรากฏว่ามีซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์นั้นบอกว่าเห็นรถ 2 คัน เป็นรถแท็กซี่และรถกระบะตู้ทึบ แต่รถนั้นขับตามกันออกไปแล้ว โดยวิ่งเข้าไปในซอย ตนเองจึงได้ขับรถออกตามหา ทั้งยังได้โทรศัพท์ติดต่อกับพ่อ แต่ปรากฏว่ามีคนอื่นรับสายแทน เลยสอบถามว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน ปลายสายตอบว่า “มึงบอกเพื่อนมึงด้วยนะ ว่าถอยรถชนรถกู เดี๋ยวเจอกันแน่ที่โรงพัก และได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า พอแล้ว พอแล้ว.....
ส่วนตนเองนั้นได้ขับรถวนตามหาแต่ก็ไม่เจอ เลยกลับบ้าน ไปถามที่บ้านว่า พ่อกลับมาหรือยัง แต่ก็ยังไม่กลับ จึงมาตามหาอีกรอบ และกำลังจะไปแจ้งความที่ สภ.โพธิ์แก้ว แต่ยังไม่ทันได้แจ้งความ ปรากฏว่ามีไลฟ์สดของกู้ภัย บอกว่าขณะนี้กำลังทำ CPR จึงเดินทางมาดูพบว่าเป็นพ่อของตนอยู่ในจุดเกิดเหตุ ในตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม แต่พ่อได้เสียชีวิตแล้ว เรื่องราวที่ติดใจดังกล่าว ตนเองสงสัยว่า หลังเกิดเหตุแล้ว ทำไมโทรศัพท์ของพ่อจึงไปอยู่กับคนอื่น มีคนรับสายแทนพ่อได้อย่างไร และอยากทราบว่าในจุดที่พ่อเสียชีวิตนั้น ไม่ใช่ทางกลับบ้าน พ่อไปเสียชีวิตตรงนั้นได้อย่างไร หรือเป็นเพราะพ่อขับไล่ตามหรือเกิดเหตุในตรงนั้นกับใครหรือไม่
อย่างไรก็ดีหากใครมีกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ขอความกรุณาให้ส่งเข้ามาให้ด้วย ส่วนในเรื่องของคดีความนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรอสอบปากคำคู่กรณีพยานแวดล้อมเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป ส่วนศพของผู้ตายได้นำมาตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดเทียนดัด อ.สามพราน จ.นครปฐมแล้ว