xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)ทึ่ง! อดีตนักธุรกิจทองหล่อ พลิกชีวิตติดลบ สู่เกษตรกร 2 ไร่ผู้สร้างซูเปอร์มาร์เกตกลางสวนโคราช

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทึ่ง! อดีตนักธุรกิจทองหล่อพลิกชีวิตติดลบ สู่ความสำเร็จเกษตรกร 2 ไร่ ผู้สร้างซูเปอร์มาร์เกตกลางสวนในโคราช เผยใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงปรับปรุงที่ดินแห้งแล้ง 2 ไร่ เป็น “โคก หนอง นา” สร้างแหล่งน้ำ ที่อยู่อาศัย ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ทั้งบ่อปลา บ่อกุ้ง นาข้าว ผัก ผลไม้ เลี้ยงเป็ด ไก่ และปลูกไม้ป่ากลายเป็นแหล่งอาหารของครอบครัวและแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ตอบโจทย์ความมั่นคงที่แท้จริง คือการมีชีวิตอยู่ได้ด้วยมือของเราเอง

วันนี้ (24 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 288 บ้านหนองระเวียง หมู่ที่ 12 ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว นายธนะกฤษฏิ์ พงษ์เกษมชูวงศ์ อายุ 52 ปี อดีตนักธุรกิจที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจากเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร นานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะหันหลังกลับบ้านเกิดภาคอีสาน มาทำการเกษตรอยู่กับภรรยา และลูกสาววัย 7 ขวบ โดยใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ปรับปรุงพื้นที่แห้งแล้ง 2 ไร่ ทำเป็นโคก หนอง นา ปลูกพืชนานาชนิด และเลี้ยงสัตว์ จนสามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี



นายธนะกฤษฏิ์เล่าว่า ตนเป็นคนต่างจังหวัด (บุรีรัมย์) ตอนเด็กๆ ฝันอยากเข้าเมืองกรุงเพื่อไปทำงานหาเงินเหมือนใครหลายคน เส้นทางชีวิตเริ่มต้นจากการทำงานในโรงงาน ห้างสรรพสินค้า เก็บเงินจนสามารถเปิดธุรกิจของตนเองได้สำเร็จ ตลอดเวลากว่า 20 ปีตนทำหลายอย่างในย่านทองหล่อ กรุงเทพมหานคร ทั้งร้านขายโทรศัพท์มือถือ คาร์แคร์ ร้านอาหารญี่ปุ่น เรียกว่าทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อแข่งขันในเมืองใหญ่เต็มที่


แต่จุดเปลี่ยนสำคัญ คือช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ตอนนั้นธุรกิจที่คิดว่ามั่นคงก็สั่นคลอน ทำให้ตนเริ่มคิดว่าสิ่งที่ทุ่มเทมาทั้งชีวิตอาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป จึงเริ่มหันมาศึกษาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง โดยเข้าอบรมกับอาจารย์ยักษ์ แล้วก็ได้เห็นภาพชัดเจนว่ามีเงินอย่างเดียวไม่พอ ถ้าไม่มีปัจจัยพื้นฐาน เราก็อยู่ไม่ได้จริงๆ


หลังจากนั้นจึงตัดสินใจเก็บของกลับบ้านทันที เริ่มต้นใหม่จากศูนย์ หรืออาจจะน้อยกว่านั้น เพราะตอนนั้นเรียกได้ว่าทุนติดลบเลยก็ว่าได้ แต่ตนก็ไม่ยอมแพ้ ศึกษา ลงมือทำเองทุกอย่าง ฝังตัวในแหล่งความรู้ เรียนรู้จากผู้ที่ทำได้สำเร็จ แล้วค่อยๆ ปรับใช้กับพื้นที่เล็กๆ ของตนเองที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนที่จะมาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา


โดยปรับที่ดิน 2 ไร่ ที่เป็นมรดกของภรรยา แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก คือ แหล่งน้ำ ที่อยู่อาศัย พื้นที่ปลูกพืช และพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ตรงนี้มีทั้งบ่อปลา บ่อกุ้ง นาข้าว ผัก ผลไม้ เลี้ยงเป็ด ไก่ และปลูกไม้ป่าด้วย เพื่อสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ


ตอนนี้ตนอยู่กับภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบ ที่นี่กลายเป็นแหล่งอาหารของครอบครัว และยังเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาศึกษาดูงานด้วย ตนอยากให้ที่นี่เป็นซูเปอร์มาร์เกตของชุมชน เป็นแหล่งอาหารที่ใครก็เข้าถึงได้


ตลอดช่วงโควิด-19 หลายคนเจอวิกฤต แต่ตนเองและครอบครัวอยู่ได้ ไม่ขาดอาหารเลย แถมยังแบ่งปันให้ญาติพี่น้องได้อีกด้วย แม้จะยังต้องพึ่งค่าน้ำมันหรือของบางอย่างจากภายนอก แต่โดยรวมแล้วสุขภาพกายใจก็ดีขึ้นมาก สิ่งที่ตนเองอยากบอกกับคนต่างจังหวัด ก็คือ...

นายธนะกฤษฏิ์ พงษ์เกษมชูวงศ์ อายุ 52 ปี
“พวกเราที่อยู่ในชนบทโชคดีอยู่แล้ว แค่บางครั้งอาจเดินไม่ถูกทาง ถ้าเราใช้ที่ดินไปปลูกพืชเชิงเดี่ยว เราก็ยังต้องใช้เงินที่ได้ไปซื้อข้าวซื้ออาหารอยู่ดี แต่ถ้าเราสร้างแหล่งอาหารของตนเองได้ เราก็ไม่ต้องกลัวอนาคต ความมั่นคงที่แท้จริง คือการมีชีวิตอยู่ได้ด้วยมือของเราเอง” นายธนะกฤษฏิ์กล่าวทิ้งท้าย






















กำลังโหลดความคิดเห็น