พิษณุโลก - ถึงขั้นยิงปะทะกันสนั่นอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง..แก๊งพรานป่าโหด เห็น จนท.ดักซุ่มจับกลับยิงใส่ เจอชุดพิทักษ์ป่ายิงตอบโต้ พอจวนตัวทิ้งเป้กระสอบฟางของกลางทั้งซากกระจง-ตะกวดป่า (แลน) แล้วเผ่นป่าราบ
วันนี้ (23 เม.ย.) นายชำนาญ เนตรผสม ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11, นายพัฒนาการ รองชัย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ กรณีกลุ่มนายพรานเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
ซึ่งกำลังสายตรวจปราบปรามประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.1 (วังทอง) , เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงเข้าพื้นที่ลาดตระเวนพบหลักฐานซากและกลิ่นสัตว์ป่า กระทั่งวางแผนดักซุ่มเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิด เพื่อป้องกันและปราบไม่ให้ชาวบ้านกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ โดยเฉพาะการฆ่าสัตว์ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย
ตามเบาะแสพบว่าพรานป่าเข้าพื้นที่เพื่อดักสัตว์ตั้งแต่คืนวันที่ 20 เมษายน 2568 เรื่อยมา กระทั่งวานนี้ (22 เม.ย.) ยังพบเห็นบุคคลต้องสงสัยซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่จำนวน 2 คน กำลังเดินเท้าลงมาจากเขาข้างลำน้ำปอย เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจค้น
แต่ผู้ต้องสงสัยเห็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ากลับยิงปืนขึ้น จึงเกิดการปะทะไปจำนวน 1 ชุด จากนั้นกลุ่มพรานน่าจะเห็นว่ากำลังเจ้าหน้าที่มีมากกว่า ไม่กล้าสู้ต่อ ตัดสินใจทิ้งกระสอบฟางมัดเป็นเป้สะพายหลังและวิ่งหลบหนีเข้าป่า
เจ้าหน้าที่วิ่งไล่ไปสักพักเพื่อจับกุม เห็นผู้ต้องสงสัยถืออาวุธปืนไปด้วย ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ กระทั่งถึงป่ารกทึบ ไม่สามารถไล่ตามผู้ต้องสงสัยได้จึงยกเลิกการติดตาม ย้อนกลับมาตรวจสอบเป้สัมภาระที่ผู้ต้องสงสัยทิ้งไว้ พบตะกวดป่า (แลน) จำนวน 5 ตัว ซากตะกวดป่า จำนวน 2 ซาก และซากกระจงจำนวน 1 ซาก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดอีก 6 รายการ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งโสภา เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีนายสนัด พรมเชียงสา ตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่าทำหน้าที่หัวหน้าหน่วย สล.3 (น้ำพรม) เป็นผู้กล่าวโทษดำเนินคดี จากนั้นร่วมกับ ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สบอ.11 และคณะ เข้าตรวจสอบพื้นที่อุทยานทุ่งแสลงหลวง อย่างเข้มข้นต่อไป เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการล่าสัตว์ป่าของเหล่านายพราน และพื้นที่ราบ โล่งเตียนเสี่ยงต่อการบุกรุกของนายทุน