อุบลราชธานี - หย่ากันแล้วเมียหลวงกับผู้ใหญ่บ้านคบชู้ซ้อนกับหญิงสาว 3 คนรวด หลังทนต่อไม่ไหวเข้าร้องผู้ว่าฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม ด้านผู้ใหญ่บ้านคนต้นเรื่องยอมหย่าแต่โดยดีเพราะเชื่อฝ่ายหญิงหมดรักหมดความอดทนแล้ว แต่สินสมรสทั้งบ้านและที่ดินต้องแบ่งครึ่ง ขณะที่ต้นสังกัดตรวจสอบข้อเท็จจริงหากมีมูลจะให้ออกหรือไล่ออก
จากกรณีทนายโนบิ พร้อมทีมงานทนายโนบิช่วยด้วย พาเมียหลวงเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หลังถูกสามีเป็นผู้ใหญ่บ้านแอบสวมเขาคบชู้ซ้อนหญิงสาวอีก 3 คน หลังเรื่องแดงเมียหลวงขอแยกทางกลับถูกทำร้ายทุบตีเอาปืนขู่ฆ่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 เม.ย. นายธนรัตน์ สุภาพันธ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี และผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ได้ประสานไปยัง นายมานะ หร่ายเจริญ นายอำเภอกุดข้าวปุ้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กุดข้าวปุ้น เชิญตัวผู้ใหญ่สี (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอกุดข้าวปุ้น มาพูดคุย
พร้อมทั้งเจรจาหาข้อยุติ กรณีที่นางเอเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หลังถูกผู้ใหญ่สีแอบสวมเขาคบชู้ซ้อนผู้หญิง 3 คน หลังเรื่องแดงนางเอขอแยกทาง กลับถูกทำร้ายทุบตีเอาปืนขู่ฆ่า
จากการพูดคุยเบื้องต้นผู้ใหญ่สียอมรับว่าเคยมีพฤติกรรมโลกหลายใบจริง แต่หลังจากถูกนางเอจับได้ ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ส่วนตัวเองก็ยังรักนางเอเหมือนเดิม แต่นางเอคงหมดรักตนแล้วก็ไม่เป็นไร ตนก็พร้อมที่จะหย่าให้ โดยสินสมรสที่มีอยู่เป็นบ้านและที่ดินให้แบ่งกันคนละครึ่ง และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก หลังจากนั้น นายมานะ หร่ายเจริญ นายอำเภอกุดข้าวปุ้น ได้ลงนามในใบสำคัญการหย่าก่อนจะแยกย้ายด้วยดี
ด้านความผิดทางวินัย นายธนรัตน์ สุภาพันธ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี และผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ต้นสังกัดจะมีการสืบสวนข้อเท็จจริงก่อน หากเรื่องมีมูลก็จะได้ตั้งกรรมการสอบทางวินัย หากพบว่ากระทำความผิดจริงจะมีโทษให้ออก หรือไล่ออกผู้ใหญ่บ้านรายนี้ต่อไป