xs
xsm
sm
md
lg

เมืองกาญจน์ ติดตามสถานการณ์ ชายแดนบ้านน้ำพุร้อน หลังเกิดเหตุทหารพม่าปะทะกองกำลังกะเหรี่ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - รองผู้ว่าฯเมือง กาญจน์ ร่วม ผบ.ฉก.ลาดหญ้าฯ ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน พร้อมจัดเตรียมสถานที่รองรับผู้อพยพผู้อพยพ หากเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้น พบกลุ่มผู้อพยพชาวพม่ายังอาศัยอยู่แนวสันแดนประชิดไทย ส่งน้ำ-ข้าวให้ตามหลักสิทธิมนุษยชน

จากกรณีเกิดสถานการณ์การยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยง พล.น.4 กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA.) กับ ทหารเมียนมาในพื้นที่บ้านแม่น้ำธิทะ กิ่ง อ.เมตตา จ.ทวาย ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จุดปะทะอยู่ห่างจากช่องทางบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประมาณ 10 กิโลเมตร การปะทะทำให้ประชาชนจากบ้านทิกิ ประมาณ 300 คนอพยพมาหลบภัยอยู่บริเวณพื้นที่ขนถ่ายสินค้าเข้าออกระหว่างประเทศที่มีแนวเขตติดชายแดนไทย ช่องทางพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อถึงเวลากลางคืนสถานการณ์กลับมาเป็นปกติชาวบ้านจึงทยอยเดินทางกลับด้วยความสงบ และปลอดภัย แต่เพื่อความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคนของไทยทุกหน่วยงาน ได้บูรณาการร่วมกันเฝ้าระวังแนวชายแดนบริเวณดังกล่าวอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่เมื่อวันที่ 19 เม.ย.68 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้( 20 เม.ย.) นายอธิสรรค์ อินตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ร.29/ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ร.29/รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รวมถึงปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารพราน นายประสาน สงวนพันธ์ นายก อบต.บ้านเก่า นายอภิรัฐ สงบจิต ผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านเก่า หมู่ 12 บ้านพุน้ำร้อน เจ้าหน้าที่ อส. พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า และได้มีการประชุมประเมินสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

รวมถึงได้มีการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์เอาไว้หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น เนื่องจากอาจมีราษฎรฝั่งประเทศเมียนมาหลั่งไหลทะลักเข้ามาหลบภัยอยู่ฝั่งไทย โดยทางฝ่ายความมั่งคงของจังหวัดได้มีการเตรียมรองรับสถานะการณ์ เอาไว้ 4 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 ในส่วนของพื้นที่รับตัวผู้อพยพ บริเวณช่องด่านไม้กระดกช่องทางบ้านพุน้ำร้อน เพื่อตรวจจำนวนคนรวมถึงตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดรวมถึงปลดอาวุธที่นำติดตัวมาด้วย

จุดที่ 2 พื้นที่พักพิง/พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บริเวณตลาดประชารัฐพุน้ำร้อน เพื่อเป็นที่พักพิง การคัดกรองโรค ควบคุมการพัก

จุดที่ 3 จุดสกัดกั้น/คัดกรองผู้เกี่ยวข้อง บริเวณสามแยกอนามัยบ้านพุน้ำร้อน เพื่อเป็นจุดสกัด ป้องกันการหลบหนี คัดกรองบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่

และจุดที่ 4 พื้นที่ตำบลรวบรวมพลเรือน กรณีด้านราษฎรไทยที่อยู่แนวชายแดนได้รับผลกระทบ ได้มีการเตรียมการพื้นที่ไว้เพื่อเป็นที่พักพิงให้กับราษฎรไทยที่อาจต้องอพยพออกจากพื้นที่ชั่วคราว ซึ่งอาจจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง หากมีการอพยพจริง

สุดท้ายหากมีการอพยพจริง เจ้าหน้าที่ได้วางแผนจัดเตรียมสถานที่เอาไว้ 4 แห่ง ประกอบด้วยโรงเรียนบ้านห้วยน้ำขาว หอประชุมหมู่บ้านบ้านพุน้ำร้อน อาคาร บก.กกล.สุรสีห์ (ส่วนหน้า)และบริเวณโครงการชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยลำทราย

ปัจจุบันนี้พบว่าราษฎรเมียนมาจำนวนหนึ่งยังคงปักหลักอาศัยอยู่บริเวณชายแดนฝั่งเมียนมาจุดไม้กระดก ส่วนใหญ่เป็นคนชราหญิงและเด็ก โดยยังไม่มีการอนุญาตให้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ฝั่งไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดหาข้าวหาน้ำมาให้ ซึ่งเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด










กำลังโหลดความคิดเห็น