ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ศึกเลือกตั้งเทศบาลโคราชคึกคัก “ช่อ พรรณิการ์” นำทีมบุกตลาดช่วย “พงษ์ยุทธ” ผู้สมัครฯ นายกนครนครราชสีมา พรรค ปชน.หาเสียง ย้ำเงินภาษี 1,700 ล้านต้องถึงมือคนมีวิสัยทัศน์ ด้าน “อัสนี เชิดชัย” ลูกเจ๊เกียว เจ้าแม่รถทัวร์ เปิดหน้าพา “หมอวรรณรัตน์” ผู้สมัครนายกจาก ชพน.ลุยหาเสียงในตลาดหัวรถไฟ ชู 2 นิ้วให้เลือกเบอร์ 2
วันนี้ (20 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยผู้สมัครจากแต่ละกลุ่มต่างลงพื้นที่พบปะหาเสียงกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า เดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อร่วมลงพื้นที่หาเสียงเคียงข้าง นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หมายเลข 1 และทีมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลจากพรรคประชาชน (ปชน.) ครบทั้ง 4 เขต
ทั้งนี้ มีจุดลงพื้นที่สำคัญหลายแห่งในเขตเมืองนครราชสีมา เช่น ตลาดหลักเมือง, ตลาดหัวรถไฟ, เดอะมอลล์โคราช, ตลาดเทศบาล 5, ตลาดเคหะ และตลาดเซฟวัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนให้การต้อนรับแน่นขนัด พร้อมด้วยกำลังใจจากนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ส.ส.เขต 1 นครราชสีมา พรรคประชาชน ซึ่งเป็นน้องชายของ นายพงษ์ยุทธ ร่วมลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด
นางสาวพรรณิการ์ วานิช กล่าวถึงความท้าทายของการเลือกตั้งท้องถิ่นในเมืองใหญ่อย่างโคราชว่า แม้ประชาชนจำนวนมากจะให้ความสำคัญต่อการเลือกตั้งระดับชาติ แต่กลับไม่ตระหนักว่าการเลือกตั้งเทศบาลนั้นส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวัน และผู้ชนะจะได้ใช้งบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน คนมักจะขับรถกลับบ้านเพื่อเลือกตั้ง ส.ส. แต่ไม่รู้เลยว่าการเลือกตั้งเทศบาลก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนายกเทศมนตรีจะบริหารเงินเกือบหมื่นล้านในสี่ปี ถ้าคุณคิดว่าเงิน 1,700 ล้านสำคัญ ก็ต้องกลับมาเลือกคนที่มีวิสัยทัศน์และไม่โกง
นาวสาวพรรณิการ์กล่าวอีกว่า เทศบาลนครโคราชเป็นหนึ่งในเทศบาลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ แต่หลายคนไม่รู้ถึงศักยภาพทางงบประมาณ เนื่องจากไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน พร้อมย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นจากประชาชนที่ตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิ ไม่ใช่แค่หวังปาฏิหาริย์จากตัวผู้สมัคร
“ในวันนี้พรรคประชาชนเองก็ถือว่าเป็น “เจ้าถิ่น” เช่นกัน เพราะมี ส.ส.เขตเมืองนครราชสีมาครบทั้ง 3 คน เราไม่เชื่อในความเป็นเจ้าของพื้นที่ของนักการเมือง เพราะเจ้าของที่แท้จริงคือตัวประชาชนต่างหาก” นาวสาวพรรณิการ์กล่าว
ด้าน นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หมายเลข 1 พรรคประชาชน ระบุว่า ทีมงานของตนเป็น “หน้าใหม่ แต่ประสบการณ์ไม่ใหม่” ที่มีทั้งความหลากหลายทางอาชีพและวัยวุฒิ พร้อมนำเสนอแนวคิดและแนวทางบริหารรูปแบบใหม่สู่เมืองโคราช ซึ่งปัญหาหลักที่พบจากการลงพื้นที่ตลอด 2 เดือนมีสองเรื่องที่ประชาชนสะท้อนมากที่สุด คือ “ปัญหาน้ำประปา” ซึ่งยังคงมีท่อแตกและระบบไม่เสถียร และ “ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง” โดยทีมของตนให้ความสำคัญต่อการสร้างความคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้โคราชมีชีวิตชีวา ประชาชนให้กำลังใจเสมอ และขอให้เราสู้เต็มที่ เราก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลง” พงษ์ยุทธกล่าว
ขณะที่เมื่อเวลา 07.30 น. วันเดียวกันนี้ ที่ตลาดหัวรถไฟ ตำบลในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายอัสนี เชิดชัย บุตรชาย "เจ๊เกียว" นางสุจินดา เชิดชัย เจ้าแม่รถทัวร์ อดีตนายกสมาคมรถโดยสารประจำทางแห่งประเทศไทย และเจ้าของตลาดหัวรถไฟโคราช ได้พา นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา หมายเลข 2 จากกลุ่มโคราชชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และผู้สมัคร ส.ท.เขต 3 กลุ่มโคราชชาติพัฒนา เดินหาเสียงในตลาดสดหัวรถไฟทักทายพ่อค้า แม่ค้าและประชาชนที่เดินจับจ่ายซื้อสินค้าและอาหาร
พร้อมแจกแผ่นพับแนะนำนโยบายของกลุ่มโคราชชาติพัฒนาที่ชี้แจงผลงานที่ผ่านมา 4 ปี ในฐานะแชมป์เก่าและนำเสนอนโยบายใหม่ที่จะทำสานต่อในอีก 4 ปีข้างหน้าหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวเทศบาลนครนครราชสีมาอีกครั้ง
นายอัสนีได้กล่าวฝากพ่อค้า แม่ค้าในตลาด พร้อมชู 2 นิ้วว่าให้เลือกเบอร์ 2 เอาคนเข้าไปทำงานเพื่อบ้านเมือง
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) มีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาเทศบาลนครนครราชสีมาต่อไปเพื่อสานต่อนโยบายเดิมที่ทำไว้ โดยเฉพาะการวางระบบน้ำประปาใหม่หมดทั้งเมืองเนื่องจากของเดิมเป็นท่อเก่ามีอายุการใช้งานมานานและเกิดปัญหาท่อแตกอยู่เป็นประจำขณะนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลมารอไว้แล้วเพื่อแก้ปัญหาน้ำประปาขาดแคลน
"นอกจากนี้ การแก้ปัญหาขยะที่จะต้องเร่งดำเนินการทันที ตลอดจนปัญหาน้ำท่วมขังที่มีการแก้ไปแล้วส่วนหนึ่งซึ่งจะต้องดำเนินต่อให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ การพัฒนาภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมของเมือง การแก้ปัญหาจราจร ตลอดจนการฟื้นเศรษฐกิจ การสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน และการสร้างจุดเด่นหรือแลนด์มาร์กของเมืองเพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเมืองโคราช เป็นต้น" นายเทวัญกล่าว
